คปภ.คาดสรุปความเสียหายหลังเหตุจลาจลต้นเดือน

คปภ.คาดสรุปความเสียหายหลังเหตุจลาจลต้นเดือน

คปภ.คาดสรุปความเสียหายหลังเหตุจลาจลต้นเดือน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

บริษัทประกันภัย ประเมินความเสียหายพบ มีผู้ซื้อประกันอัคคีรายใหญ่ 358 กรรมธรรม์ วงเงินแสนกว่าล้าน สรุปทั้งหมดครบต้นเดือน

นางจันทรา บูรณฤกษ์ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวว่า จากการที่ คปภ.ได้กำหนดเขตประกันภัยในกรุงเทพมหานคร (กทม.) รวมทั้งสิ้น 1,610 บล็อก และสามารถสืบค้นข้อมูลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ตั้งแต่เดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ภายหลังเหตุการณ์ความไม่สงบในกรุงเทพฯ มีพื้นที่ได้รับผลกระทบรวมทั้งสิ้น 7 บล็อก มีผู้ซื้อประกันอัคคีภัยที่เป็นรายใหญ่ 358 กรมธรรม์ ทำไว้กับ 30 บริษัทประกันภัย วงเงินความคุ้มครองภาพรวม 137,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังพบด้วยว่าในพื้นที่ประสบเหตุผู้ประกอบการมากถึงร้อยละ 99 ซื้อความคุ้มครองจากอัคคีภัยเท่านั้นแต่ไม่ได้ซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมจาก การก่อการร้ายเอาไว้ ที่ซื้อประกันก่อการร้ายเพิ่มมีเพียง 6 บริษัท และพบว่ารายย่อยที่ซื้อประกันอัคคีภัยวงเงินไม่เกิน 5 ล้านบาท แต่ไม่ได้ซื้อความคุ้มครองภัยจากการก่อการร้ายเอาไว้มีทั้งสิ้น 700 ราย ในส่วนนี้ คปภ.และบริษัทประกันภัยได้เร่งสำรวจความเสียหายโดยเข้าพื้นที่ตั้งแต่หลัง เกิดความเสียหาย คาดว่าจะสามารถสรุปภาพรวมความเสียหายทั้งหมดภายในวันที่ 10 มิ.ย.นี้ เพื่อพิจารณาความช่วยเหลือต่อไป

สำหรับผู้ประกอบการรายใหญ่ที่ซื้อความคุ้มครองภัยจากการก่อการร้ายเพิ่ม เติม 6 บริษัท ได้แก่ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอ็น ซื้อประกันภัยก่อการร้ายไว้ในวงเงิน 3,500 ล้านบาท และซื้อประกันธุรกิจหยุดชะงักเพิ่มอีกร่วมกับเซ็นทรัลเวิลด์วงเงินประกัน 6,147 ล้านบาท คาดว่าบริษัทที่รับประกันภัยต่อในต่างประเทศที่ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามา ประเมินความเสียหายจะประเมินความเสียหายเสร็จภายในสัปดาห์นี้ นอกจากนี้ ห้างสรรพสินค้าเซ็นได้ซื้อประกันภัยก่อการร้ายไว้ในวงเงิน 3,300 ล้านบาท ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ซื้อประกันภัยก่อการร้ายสำหรับสาขาทั่วประเทศไว้ในวงเงิน 200 ล้านบาท และธนาคารกสิกรไทยได้ซื้อไว้เช่นกันแต่ไม่ทราบวงเงินในขณะนี้ นอกจากนี้ ยังพบว่าร้านค้าในเซ็นทรัลเวิลด์ได้ซื้อประกันภัยธุรกิจหยุดชะงักไว้ ได้แก่ แฟชั่นสตูดิโอ 135 ล้านบาท จัสปาล ซื้อไว้วงเงิน 351 ล้านบาท เทียมเจริญจิวเวอร์รี่เฮ้าวงเงิน 120,000 บาท

เลขาธิการ คปภ. กล่าวอีกว่า จากการสำรวจของ คปภ.และบริษัทประกันภัย พบว่าผู้ซื้อประกันอัคคีภัยรายย่อย คือ ไม่เกิน 5 ล้านบาท ได้รับความเสียหายจากการก่อการร้ายและจลาจลในระดับที่แตกต่างกันออกไปมี จำนวนทั้งสิ้น 700 ราย ซึ่งบริษัทประกันแม้ไม่ต้องจ่ายสินไหม แต่นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธาน คปภ.มีนโยบายให้บริษัทประกันภัยช่วยเหลือลูกค้าของตนโดยความสมัครใจ อีกทั้งเพื่อเป็นการรักษาฐานลูกค้าเก่าแก่เอาไว้ การจ่ายเงินชดเชยจะเป็นวงเงินที่ต่ำกว่าที่เคยช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผล กระทบ จากภัยธรรมชาติ เช่น สึนามิ ในช่วงที่ผ่านมา

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะให้บริษัทประกันสามารถนำวงเงินที่จ่ายช่วยเหลือลูกค้าให้นำ ไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล การช่วยเหลือบริษัทประกันภัยจะพิจารณาจากจำนวนลูกค้าที่ได้รับผลกระทบและวง เงินที่จะจ่ายช่วยหลือได้ตามฐานะการเงินของบริษัทประกันนั้น ๆ เอง เพราะแต่ละบริษัทจะต้องเข้าสู่ระบบ risk base capital (RBC) ของ คปภ. นอกจากนี้ บริษัทที่ทำประกันภัยต่อออกไปให้บริษัทประกันในต่างประเทศจะเจรจาขอให้ช่วย เหลือในกรณีนี้เป็นพิเศษด้วย

นางจันทรา กล่าวด้วยว่า เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนภายหลังเหตุการณ์การก่อเหตุความไม่สงบใน กรุงเทพฯ คปภ.ได้จัดให้มีระบบออนไลน์ www.oic.or.th ช่วยเหลือในการเคลมประกันภัย เพื่อจะได้ส่งข้อมูลแจ้งให้สมาคมประกันภัยและสมาคมประกันวินาศภัยต่อไปเพื่อ ให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างรวดเร็ว

นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด ในฐานะนายกสมาคมประกันชีวิตไทย กล่าวว่า ภายหลังเหตุการณ์การก่อความไม่สงบในกรุงเทพฯ พบว่ามีผู้ทำประกันชีวิตเสียชีวิตรวม 13 คน จำนวน 17 กรมธรรม์ ทำไว้กับบริษัทประกันชีวิต 9 บริษัท วงเงินความคุ้มครองรวมกว่า 4 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังจะเตรียมสำรวจลูกค้าที่ได้รับบาดเจ็บและทุพพลภาพตามโรงพยาบาลต่าง ๆ เพื่อให้ความคุ้มครองต่อไปด้วย ซึ่งกรมธรรม์ประกันชีวิตหากเสียชีวิตจะได้รับการคุ้มครองตามกรมธรรม์ทั้ง เต็มจำนวนไม่ยกเว้นแม้จะเป็นภัยจากการก่อเหตุจลาจลในกรุงเทพฯ หรือการก่อการร้าย.

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook