หลายมาตรการฟี้นฟูประเทศไทย ฟื้นฟูจิตใจคนไทย ที่มีให้จากภาครัฐและภาคส่วนต่างๆ

หลายมาตรการฟี้นฟูประเทศไทย ฟื้นฟูจิตใจคนไทย ที่มีให้จากภาครัฐและภาคส่วนต่างๆ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นอกเหนือจากการที่รัฐบาลจัดตั้งคณะกรรมการช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยและประชาชนที่ทรัพย์สินเสียหายจากเหตุการณ์ความไม่สงบจากการชุมนุมทางการเมือง โดยเปิดศูนย์เยียวยาให้ผู้ได้รับความเสียหายมาลงทะเบียนเพื่อรับความช่วยเหลือแล้ว รัฐบาลได้ใช้โอกาสนี้ในการเยียวยาทั้งสภาพจิตใจและการฟื้นฟูประเทศไทยให้ก้าวไปข้างหน้า โดยได้กำหนดแนวทางในการเปิดโอกาสให้คนไทยทุกภาคส่วนได้เข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการสร้างความปรองดองแห่งชาติ เบื้องต้นได้มีการปรับสายด่วน 1111 และเว็บไซต์ของนายกรัฐมนตรี www.pm.go.th ให้เป็นช่องทางในการสื่อสารที่คนไทยทุกคนแสดงความคิดเห็นถึงปัญหา หรือเสนอแนะแนวทางในการแก้ไข โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาความเหลื่อมล้ำและความไม่เป็นธรรมในสังคมที่ประชาชนเดินทางมาชุมนุมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นปัญหาที่สะสมมายาวนาน ที่ผ่านมาได้มีกระบวนการขับเคลื่อน ที่เน้นการปฏิรูปเศรษฐกิจและสังคมที่เป็นต้นเหตุและหัวใจแห่งปัญหา ความเหลื่อมล้ำต่างๆ ที่เกิดขึ้น โดยมีการระดมสมองและเครือข่ายภาคประชาชน ตลอดจนนักวิชาการทำงานร่วมกัน โดยจะขับเคลื่อนแนวทางในการคืนอำนาจให้กับประชาชน ด้วยการส่งเสริมท้องถิ่นและชุมชนให้มีความเข้มแข็ง สามารถทำงานกับเครือข่ายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและเครือข่ายในพื้นที่ เพราะท้องถิ่นและชุมชนรับทราบถึงปัญหาในพื้นที่ได้ดี เช่น พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่เกิดปัญหาความแห้งแล้ง ปัญหาแหล่งน้ำ หรือบางพื้นที่มีปัญหาสิทธิการใช้ที่ดินทำกิน ปัญหาสวัสดิการสังคมต่างๆ รวมถึงการปฏิรูปการศึกษา สุขภาพ การเข้าถึงการให้บริการสาธารณสุข ตลอดจนสวัสดิการผู้สูงอายุและผู้พิการ นอกจากนี้ ยังมีการเปิดช่องทางต่างๆ ให้ประชาชนได้เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นผ่านทางโทรศัพท์ เว็บไซต์นายกรัฐมนตรีและเครือข่ายสังคมออนไลน์ เพื่อเป็นการสร้างการมีส่วนร่วมของเครือข่ายประชาชนและเป็นพลังของสังคม อีกทั้งมีแนวทางในการเชิญชวนให้สถาบันการศึกษาจัดทำผลสำรวจการรับฟังความคิดเห็นระดับประเทศ หรือ National Poll ทุกจังหวัดเพื่อให้เกิดความครอบคลุมในการสอบถามความเห็นและปัญหาของประชาชนที่อยู่ในเขตเมืองและชนบทในแต่ละสาขาอาชีพ ทั้งที่เป็นเกษตรกร ผู้ใช้แรงงานในเมืองหรือในชุมชน คนด้อยโอกาสทางสังคม คนรุ่นใหม่นิสิต นักศึกษา นักธุรกิจ ข้าราชการ ผู้ประกอบการวิชาชีพต่างๆ อีกทั้งจะลงลึกในรายละเอียดของกลุ่มตัวอย่างที่เป็นกลุ่มสตรี แม่บ้าน คนทำงานกลางคืน หาบเร่แผงลอยคนขับรถแท็กซี่ คนขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เป็นต้น อย่างน้อยที่สุดผลสำรวจที่ได้มาจะเป็นแนวทางในการมองปัญหาและกระบวนการมีส่วนร่วมของคนไทยทุกภาคส่วน ซึ่งแนวทางนี้สอดคล้องกับกระแสสังคมในทางบวกที่เกิดขึ้นอยู่ในช่วงนี้ สังเกตได้จากตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ก่อนที่ทางกรุงเทพมหานครเชิญชวนประชาชนทั่วไปมาร่วมกันทำความสะอาดพื้นที่ย่านราชประสงค์ สีลม หรือบริเวณใกล้เคียงพื้นที่ชุมนุม โดยประชาชนส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมกิจกรรมเพราะมีความผูกพันในความเป็นคนไทย จึงมาร่วมไม้ร่วมมือกันทำความสะอาดพื้นที่ดังกล่าว โดยการรับทราบข้อมูลข่าวสารจากสื่อต่างๆ เช่น เครือข่ายอาสาสมัครฟื้นฟูประเทศไทยจากสังคมออนไลน์ดารา นักร้อง ศิลปินคนดังจากต่างค่าย แต่มาร่วมร้องเพลงเดียวกัน ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของพลังบวกในการขับเคลื่อนสังคมไทยให้ก้าวข้ามวิกฤต อย่างไรก็ตาม ในวันนี้เราจะเห็นการขับเคลื่อนของภาคส่วนต่างๆ เช่น นักวิชาการ เครือข่ายภาคประชาสังคมสถาบันการศึกษา และแม้แต่สื่อสารมวลชน ทั้งโทรทัศน์วิทยุ และหนังสือพิมพ์ ต่างจัดเวทีหาทางออกให้กับประเทศไทย รวมทั้งเครือข่ายภาคเอกชน เช่น สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฯตลอดจนสมาคมวิชาชีพต่างๆ ได้เสนอแนวทางในการร่วมกันฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมไทยในการก้าวต่อไปข้างหน้าซึ่งถือเป็นกระแสตอบรับในเชิงบวกที่เกิดขึ้นในสังคมไทย ณ ขณะนี้ ดังนั้น การที่ประเทศไทยจะก้าวไปข้างหน้าได้เป็นเรื่องที่คนไทย ซึ่งแม้จะมีความเห็นที่แตกต่างกัน แต่สามารถที่จะใช้ความต่างนั้นมาเป็นพลังในการขับเคลื่อนประเทศไทยของเราให้ก้าวเดินหน้าต่อไป
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook