ปชป.ไม่ห่วงเรืองไกรยื่นยุบพรรค ยันพร้อมไปชี้แจงศาล นายกฯ ปลุกขรก.เลิกเป็นเครื่องมือนักการเมือง

ปชป.ไม่ห่วงเรืองไกรยื่นยุบพรรค ยันพร้อมไปชี้แจงศาล นายกฯ ปลุกขรก.เลิกเป็นเครื่องมือนักการเมือง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
อภิสิทธิ์ ปลุกขรก.เลิกเป็นเครื่องมือนักการเมือง ให้ร้องเรียนโดยตรงได้ถ้าโดนรมต.บีบทำเรื่องไม่ถูกต้อง เล็งใช้กลไกพิเศษสางคดีให้เป็นธรรม กองทัพปัดชี้แจงปมมาร์คหนีทหาร ปชป.ไม่ห่วงเรืองไกรยื่นยุบพรรค รบ.จัดรายการ อภิสิทธิ์พบปชช. เช้าวันเสาร์

ให้ขรก.เลิกเป็นเครื่องมือการเมือง

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายแก่หัวหน้าส่วนราชการ จำนวนกว่า 500 คน ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม โดยกล่าวว่า รัฐบาลข้ามาบนความคาดหวังของประชาชนที่สูงมากว่าจะแก้ปัญหาต่างๆ โดยปัญหาพื้นฐานที่สำคัญขณะนี้ คือวิกฤตการเมืองและเศรษฐกิจ ซึ่งนโยบายเร่งด่วนที่จะต้องทำให้สำเร็จภายใน 1 ปี เป็นจุดสำคัญ ทั้งนี้วิกฤตเศรษฐกิจจะหนักว่าปี 2540 ด้านการแก้ความขัดแย้งทางการเมือง ต้องใช้เวลา ทั้งนี้ต้องกำจัดความขัดแย้งให้อยู่เฉพาะนักการเมืองอาชีพ ไม่ควรนำความขัดแย้งทางการเมืองไปยังสิ่งที่ไม่ควร โดยเฉพาะเรื่องสถาบัน และต้องทำให้กระบวนการยุติธรรมไม่มีการเมืองแทรกแซง

ผมอยากย้ำกับหัวหน้าส่วนราชการทุกคนว่า ท่านตกไม่ตกเป็นเครื่องมือทางการเมือง ไม่ว่ารัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ถ้าเรื่องใดท่านคิดว่าการสั่งการเป็นผลประโยชน์ทางการเมือง ไม่ว่ารัฐมนตรีหรือคนใดก็ตามขอให้ร้องเรียนมาที่ผม เพราะผมอยากให้การทำงานของข้าราชการ เป็นข้าราชการในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่มีหน้าที่เป็นเครื่องมือทางการเมืองของฝ่ายใด นายอภิสิทธิ์กล่าว และว่า เรื่องคดีความต่างๆจะมีกลไกพิเศษขอเวลา 1สัปดาห์สรุปกลไกนี้ สำหรับผู้ว่าราชการจังหวัดจะใช้มิติสังคมวัดผลงานผู้ว่าฯ เช่นจังหวัดไหนที่เยาวชนกี่ยวข้องกับอาชญากรรม ยาเสพติดน้อยที่สุด

สั่งครม.อดทนทำงานหนัก

ก่อนหน้านั้น ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรกของปี 2552 มีรายงานข่าวว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เริ่มการประชุมด้วยการกล่าวสวัสดีปีใหม่ครม.ทุกคน จากนั้นพล.ต. สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนครม. มอบดอกไม้อวยพรปีใหม่แด่นายกฯ พร้อมกล่าวอวยพรว่า ในฐานะตัวแทนครม. ทุกคน ขอให้กำลังใจนายกฯ ให้มีความเข้มแข็งในการทำงานเพื่อชาติ เพื่อบ้านเมือง เพื่อความสุขของประชาชน ทำให้นายอภิสิทธิ์ยิ้มรับ และรีบยกมือไหว้ขอบคุณ จากนั้นนายอภิสิทธิ์ได้กล่าวให้กำลังใจครม. ทั้ง 35 ชีวิต โดยมีใจความสำคัญว่า "รัฐบาลชุดนี้ต้องทำงานหนัก และทำงานยาก เพราะเป็นที่รู้กันดีว่าสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้เป็นเช่นไร จึงขอให้คร. ทุกคนใช้ความอดทนให้มาก ขอให้มีพละกำลัง มีความพร้อมเพื่อทำหน้าที่แก้ปัญหาให้ประเทศชาติและประชาชน เรายังต้องร่วมงานกันอีกนาน

แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามไม่มีการหารือกรณีที่ฝ่ายค้านเปิดอภิปรายรัฐบาลนอกสภา เมื่อวันที่ 5 มกราคมที่ผ่านมา หรือกรณีที่ทั้งฝ่ายค้านและกลุ่มคนเสื้อแดงเรียกร้องให้นายกฯ ปลดนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โดยนายกษิตเข้าร่วมประชุมครม. ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม และพูดในที่ประชุมครม. เพียงครั้งเดียวเพื่อชี้แจงวาระที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงการต่างประเทศ ทั้งนี้การประชุมครม. เสร็จสิ้นลงในเวลาประมาณ 11.00 น. จากนั้นส่วนใหญ่อยู่รับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน

กองทัพปัดแจงปมหนีทหารมาร์ค

พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี หลีกเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร โดยเข้าสมัครเป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าฯ แต่ปฏิบัติหน้าที่ไม่กี่วันก่อนลาราชการ ว่า ตามหลักเกณฑ์สามารถขอลาราชการได้ แต่ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของผู้บังคับบัญชา อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ผ่านมาหลายปี เอกสารการลาราชการไม่จัดเป็นเอกสารราชการที่สำคัญ จึงไม่น่าจะมีการจัดเก็บเอกสารไว้ ด้วยเหตุนี้ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบได้ในรายละเอียด

ประเด็นนี้เป็นเรื่องการเมืองที่นำมาโจมตีกัน อย่านำกองทัพมาโยงการเมือง ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้ระบุให้ ผู้บัญชาการเหล่าทัพยุติการให้ความเห็นเรื่องการเมือง เพราะที่ผ่านมาเสนอความเห็นแล้วถูกโยงเป็นประเด็นการเมือง เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวที่นำมาเป็นประเด็นการเมือง จึงไม่เหมาะที่กองทัพจะเข้ามาเกี่ยวข้อง โฆษกกองทัพบกกล่าว

ปชป.ไม่ห่วงเรืองไกรยื่นยุบ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากร่วมทำกิจกรรมทางการเมืองกับบุคคลที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองว่า ยังไม่ได้รับเรื่อง หากรับเรื่องมามีหน้าที่จะไปชี้แจง

นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กฎหมายไม่ได้ห้ามไม่ให้ผู้ที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองคบค้าหรือไม่ให้พูดจากับใคร หรือไม่ให้แสดงความเห็นทางการเมือง เพราะถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ ดังนั้นกรรมการบริหารพรรคการเมืองสามารถพูดคุยกับบุคคลเหล่าน้ได้ ทั้งในเรื่องส่วนตัวและเรื่องของบ้านเมือง โดยไม่ถือเป็นเหตุให้มีการยุบพรรคได้ โดยได้ศึกษากฎหมายมาอย่างดีแล้วเห็นว่าการยื่นเรื่องดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคก็ไม่ต้องเตรียมตัวหรือจัดทีมงานทางกฎหมายเพื่อรองรับเรื่องเหล่านี้

ส่วนข้อกล่าวหาที่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ฮั้วเลือกตั้งซ่อมกับพรรคร่วมรัฐบาล นายถาวรกล่าวว่า ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2549 ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยไว้เป็นบรรทัดฐานแล้วว่า พรรคการเมืองสามารถส่งหรือไม่ส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งได้ การกระทำของพรรคจึงไม่ได้เป็นการฮั้ว แต่เห็นว่าถ้าส่งผู้สมัครลงไปก็คงจะสู้ได้ยาก จะเปลืองค่าใช้จ่ายไปทำไม ข้อกล่าวหาที่ว่ามีการฮั้วการเลือกตั้งเป็นการคิดกันเอาเอง

ผ่านร่างพ.ร.ฎ.เปิดสภา21ม.ค.

นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ครม.เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ปิดประชุมสมัยวิสามัญแห่งรัฐสภา พ.ศ. 2552 ในวันที่ 9 มกราคม ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอมา หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2551 นอกจากนี้ครม. ยังเห็นชอบร่างพ.ร.ฎ. เรียกประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยสามัญ ในวันที่ 21 มกราคมด้วย โดยหลังจากนี้สลค. จะนำร่างพ.ร.ฎ. ดังกล่าวขึ้นทูลเกล้าฯ ต่อไป

จัดอภิสิทธิ์พบปชช.เช้าเสาร์

นายเผชิญ ขำโพธิ์ อธิบดีกรมประชาสัมพันธิ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้รายการโทรทัศน์ นายกฯพบประชาชน ที่ได้รับนโยบายจากนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มีความคืบหน้าแล้ว โดยจะออกอากาศทุกวันเสาร์ เวลา 09.00-10.00 น.ใช้ชื่อว่า นายกฯอภิสิทธิ์ พบประชาชน แต่รูปแบบของรายการ และวันที่จะเริ่มรายการเมื่อไหร่นั้น นายสาทิตย์จะเป็นผู้ชี้แจงเอง เชื่อว่า การจัดรายการครั้งแรก จะเป็นเสาร์แรกหลังเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เรียบร้อยแล้ว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook