บิ๊กดีเอสไอยันไม่เคยดักฟังใคร วอนพีระพันธุ์ฟังความ2ข้าง พท.เตือนตั้งนามยิ่งเพิ่มความขัดแย้ง

รมว.ยุติธรรม เดือดยืนยันถูกดักฟังจริง แต่ไม่รู้ฝีมือใคร เป็นได้ทั้งหน่วยงานรัฐ-เอกชน อธิบดีดีเอสไอยันไม่เคยใช้เครื่องดักฟังใคร วอน พีระพันธุ์ ให้ฟังความสองข้าง เพื่อไทย เตือนตั้ง นาม ยิ่งเพิ่มความขัดแย้ง

พีระพันธุ์ฉุนสอบมือดักฟัง

ความคืบหน้ากรณีกระแสข่าวการแต่งตั้งนายนาม ยิ้มแย้ม อดีตประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ให้เป็นที่ปรึกษานายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) หลังเจ้าตัวยอมรับถูกทาบทามจริงแต่เป็นเพียงทีมงาน ไม่ใช่ที่ปรึกษาตามที่เป็นข่าว ขณะที่รมว.ยุติธรรม ออกมาระบุว่าข่าวที่หลุดรอดไปเกิดจากการถูกดักฟัง ล่าสุด เมื่อวันที่ 6 มกราคม นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาลถึงกรณีที่ระบุว่าถูกดักฟังโทรศัพท์ระหว่างการทาบทามนายนาม ยิ้มแย้ม อดีตประธานคตส. เป็นคณะทำงานว่า เป็นการดักฟังโทรศัพท์แน่นอน และได้ดำเนินการตรวจสอบผู้ที่ดักฟังโทรศัพท์แล้ว

เขาดักฟังผมพูดโทรศัพท์ ผมไม่รู้ว่าเป็นฝ่ายไหน ถ้าผมรู้ตัวผมก็จับไปแล้วสิ นายพีระพันธุ์ กล่าวอย่างมีอารมณ์

ผู้สื่อข่าวถามว่า แล้วสงสัยหรือไม่ว่าเป็นฝีมือใคร นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ยังไม่สามารถสงสัยใครได้ แต่เครื่องดักฟังโทรศัพท์มีอยู่เต็มไปหมด ส่วนใหญ่อยู่ในหน่วยงานรัฐและบริษัทเอกชน ที่เป็นโอเปอเรเตอร์โทรศัพท์

บิ๊กดีเอสไอยันไม่เคยดักฟัง

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กล่าวว่า ตั้งแต่ผมเข้ามารับตำแหน่งเกือบ1 ปี ยืนยันว่าไม่มีการใช้เครื่องมือไปดักฟังใคร ดีเอสไอเป็นหน่วยงานหนึ่งที่มีเครื่องมือในการดักฟังทางโทรศัพท์ แต่ก็มีระเบียบหลักเกณฑ์วิธีการใช้งดยต้องทำหนังสือเสนอขออนุมัติใช้เครื่องมือมายังอธิบดี หรือ รองอธิบดี เพื่อส่งเรื่องขออนุญาตถึงอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาใช้เครื่องมือดักฟัง และจากการสอบถามพ.ต.อ.ดุษฎี อารยะวุฒิ รองอธิบดีดีเอสไอ ที่ดูแลรับผิดชอบเครื่องมือดังกล่าว ทราบว่าตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2551 ไม่มีการใช้เครื่องมือดักฟังอย่างแน่นอน เพราะได้นำเครื่องมือไปอัพเดทฐานข้อมูล นอกจากนี้ การดักฟังทางโทรศัพท์ต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ต่างๆ ซึ่งไม่เคยขอให้ผู้ให้บริการสัญญาณโทรศัพท์ร่วมมือในการดักฟัง

ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นความต้องการในการเปลี่ยนตัวอธิบดีดีเอสไอหรือไม่ พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เคยเป็นผู้พิพากษามาก่อน จะรับฟังจากคนที่สาบานตนแล้ว และยังต้องฟังความจากสองฝ่าย

ขุนค้อนเชื่อตั้งนามเพิ่มขัดแย้ง

นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า หากนายพีรพันธุ์จะแต่งตั้งนายนาม เป็นคณะทำงาน ต้องดูว่ามีความเหมาะสมแค่ไหน เพราะทุกคนรู้กันทั่วว่าที่ผ่านมานายนาม มีภาระหน้าที่อะไร และเรื่องนี้จะส่งผลต่อนโยบายของรัฐบาลที่ระบุว่าจะลดปัญหาความขัดแย้งในบ้านเมืองได้

ด้านนายวิชิต ปลั่งศรีสกุล ทีมกฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการจับตาดูว่าจะมีการแต่งตั้งนายนามจริงตามที่เป็นข่าวหรือไม่ ถ้าตั้งจริงภาพรัฐบาลน่าเป็นห่วง การแต่งตั้งตัวบุคคลที่ไม่สง่างามจะทำให้สังคมเกิดความคลางแคลงใจกับรัฐบาลนี้มากยิ่งขึ้น และรู้กันทั่วไปว่านายนาม เป็นปรปักษ์กับพ.ต.ท.ทักษิณ เพราะเป็นประธานกรรมการคดียุบพรรคไทยรักไทย และยังเป็นผู้กล่าวหาพ.ต.ท.ทักษิณ กว่า 10 คดี ซึ่งจะทำให้การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในสังคมตามที่นายอภิสิทธิ์แถลงนโยบายน่าเป็นห่วง โดยขณะนี้คดีความของพ.ต.ท.ทักษิณ ในชั้นของดีเอสไอมีประมาณ 1-2 คดี ซึ่งก็มีส่วนว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และทีมงานรัฐมนตรีอาจจะใช้อำนาจไม่ชอบเข้าไปแทรกแซงการทำงานของข้าราชการประจำจนทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมได้

สุเทพปัดตั้งนามที่ปรึกษายธ.

ก่อนหน้านี้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวก่อนเข้าประชุมครม.ย้ำว่า ไม่มีชื่อนายนาม ยิ้มแย้ม อดีตประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) มาเป็นที่ปรึกษาของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมอยู่ในใบรายชื่อที่ตนเป็นผู้จัดทำเบื้องต้น โดยการแต่งตั้งเลขานุการและที่ปรึกษารัฐมนตรีในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ จะต้องผ่านความเห็นชอบร่วมกันระหว่างพรรคและตัวรัฐมนตรีเอง เชื่อว่าภายในสัปดาห์หน้ารายชื่อในส่วนของพรรคน่าจะมีความชัดเจน และเอาเข้าที่ประชุมครม.ได้

นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้ต้องตาบอดสี ทำงานกับทุกกลุ่มไม่ว่าสีไหน เพราะต้องการคนที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาช่วยงาน เราไม่คิดแบ่งแยกใคร แม้แต่ในกระทรวงพาณิชย์เองก็มียังการตั้งคนของรัฐบาลชุดเก่าเข้ามาให้คำปรึกษาหลายคน