สุริยะใส เชื่อ ทักษิณ ไม่เจรจา ถ้าไม่ได้ประโยชน์

สุริยะใส เชื่อ ทักษิณ ไม่เจรจา ถ้าไม่ได้ประโยชน์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า แรงต้านรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จากระบอบทักษิณจะเข้มข้นและมีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้นทั้งในและนอกสภา เพราะช่วงที่พรรคนอมินีระบอบทักษิณถืออำนาจก็ยังแสดงความก้าวร้าวให้สังคมเห็น ยิ่งมาเป็นฝ่ายค้านยิ่งเป็นไปได้สูงที่จะต่อต้านรัฐบาลสารพัดวิธี การโทรศัพท์ข่มขู่นายกฯ เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง เพราะมีการแจกเบอร์นายกฯให้กับเครือข่ายผ่านวิทยุชุมชนและกลุ่มคนขับรถแท็กซี่บางกลุ่ม รวมทั้งโพสท์เบอร์และที่อยู่ของแกนนำขึ้นเว็บไซด์เครือข่ายระบอบทักษิณ ในช่วงพันธมิตรฯชุมนุม แกนนำหลายคนก็โดนขู่ฆ่ารายวัน แต่การชุมนุมใหญ่และยืดเยื้อรูปแบบพันธมิตรฯนั้น นปช.คงไม่มีศักยภาพ คงใช้รูปแบบจัดชุมนุมย่อยๆตามสถานการณ์เพื่อสร้างความปั่นป่วนให้กับรัฐบาลแทน เพราะวิธีการดังกล่าวใช้คนไม่ต้องมาก แต่เน้นปฏิบัติการที่รุนแรงเพื่อเรียกความสนใจจากสังคม

นายสุริยะใส กล่าวต่อไปว่า ตรรกของรัฐบาลที่เน้นการเจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพื่อความสมานฉันท์และร่วมกันแก้ปัญหาบ้านเมืองเป็นตรรกที่ผิด แม้จะตั้งใจดีแต่คงไม่มีประโยชน์ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณจะไม่ยอมเจรจาถ้าไม่ได้ประโยชน์ หากจะเจรจาก็ยังไม่ใช่ตอนนี้ จนกว่า นปช.และพรรคเพื่อไทยจะเพลี่ยงพล้ำทางการเมือง เพราะขณะนี้อำนาจต่อรองของระบอบทักษิณยังอยู่ในระดับที่สร้างความปั่นป่วนให้รัฐบาลทั้งในและนอกสภาฯ การเจรจาเป็นเรื่องละเอียดอ่อน อาจทำให้สังคมเคลือบแคลงว่าเป็นการฮั้วกันทางการเมือง หรือท้าทายและหมิ่นเหม่ต่อคำพิพากษาของศาล เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ มีคำพิพากษาติดตัวและอยู่ในฐานะผู้ร้ายหนีอาญาแผ่นดิน ทางเดียวที่จะริเริ่มสมานฉันท์ได้ ต้องทำให้กระบวนการยุติธรรมเข้มแข็ง ตราบใดที่คนผิดและถูกคำพิพากษาของศาล แต่ไม่ยอมรับผิดและยังต่อต้านคำพิพากษาของศาลบ้านเมือง ก็สมานฉันท์ลำบาก ประการสำคัญกระบวนการยุติธรรมต้นทางทั้งตำรวจและอัยการบางส่วนสร้างปัญหาให้กับบ้านเมืองมามาก รัฐบาลต้องกล้าริเริ่มที่จะวางแผนปฏิรูปอย่างจริงจัง

กรณีของรัฐตำรวจที่เป็นสิ่งปฏิกูลจากระบอบทักษิณ ต้องริเริ่มรื้อถอนเป็นเรื่องเร่งด่วน โดยเฉพาะการเอาผิดกับผู้เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ 7 ตุลาคม พยานหลักฐานและผลสอบของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และกรรมาธิการสอบสวนของวุฒิสภา เพียงพอที่รัฐบาลจะเอาผิดนายตำรวจที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่โยกย้าย ไล่ออกหรือเอาผิดทางวินัยไว้ก่อน ไม่จำเป็นต้องรอการชี้มูลจาก ปปช.เพราะ ปปช.ชี้มูลในเรื่องความผิดอาญาและวินัยร้ายแรงเป็นหลัก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook