รวบนักกีฬาทีมชาติ หึงกิ๊กฆ่าเผาศพอำพราง

รวบนักกีฬาทีมชาติ หึงกิ๊กฆ่าเผาศพอำพราง

รวบนักกีฬาทีมชาติ หึงกิ๊กฆ่าเผาศพอำพราง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จับอดีตนักกรีฑาทีมชาติ หึงกิ๊กคว้าไม้ฟาดหัวดับ ถอดชุดนักเรียนเผา อุ้มร่างเปือยฝังริมห้วยอำพรางคดี ตร.สืบ 6 เดือนเจอหลักฐานมัด จนมุมสารภาพหมดเปลือก

พล.ต.ต.ชำนาญ รวดเร็ว ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน (ผบก.ภ.จว.ลำพูน) พ.ต.อ.ภาณุเดช บุญเรือง รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พร้อมด้วยทีมสืบสวน บก.ภ.จว.เชียงใหม่ และแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ควบคุมตัวว่าที่ ร.ต.เฉลิมชัย ปู่ทอง อายุ 30 ปี ไปยังป่าสน บริเวณหมู่ 9 ต.บ่อหลวง เพื่อขุดหาศพ น.ส.รุ่งนภา ไชยวงศา อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนส่วนบุญโญปถัมภ์ อ.เมือง จ.ลำพูน

โดยก่อนหน้่านี้ นายสมาน ไชยวงศา อายุ 41 ปี พ่อของ น.ส.รุ่งนภา เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำพูน ว่าลูกสาวหายตัวไปหลังเลิกเรียนวันที่ 15 มีนาคม โดยเพื่อนของลูกสาวบอกว่าเห็น น.ส.รุ่งนภาไปกับว่าที่ ร.ต.เฉลิมชัย

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่าหลักฐานเชื่อมโยงว่า น.ส.รุ่งนภาไปกับว่าที่ ร.ต.เฉลิมชัยในวันดังกล่าว จึงขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดลำพูน ในข้อหาพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ไปเสียจากบิดามารดาโดยผู้เยาว์ไม่เต็มใจ และได้จับกุมดำเนินคดีได้ในวันเดียวกัน แต่ว่าที่ ร.ต.เฉลิมชัย ไม่ยอมบอกที่อยู่ของ น.ส.รุ่งนภา อ้างว่าไม่เจอกันมานานหลายเดือนแล้ว

กระทั่งช่วงเย็นวันที่ 6 กันยายน เรือนจำกลางลำพูนได้ปล่อยตัวว่าที่ ร.ต.เฉลิมชัย เนื่องจากอัยการทำฟ้องไม่ทัน แต่ตำรวจมั่นใจว่าผู้ต้องหาต้องมีส่วนรู้เห็นในการหายตัวไปของ น.ส.รุ่งนภา จึงคุมตัวจากเรือนจำมาสอบสวนอีกครั้ง เมื่อถูกเค้นอย่างหนักตลอดทั้งคืน ว่าที่ ร.ต.เฉลิมชัยจึงยอมสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่า น.ส.รุ่งนภา แล้วนำศพไปฝังไว้ที่ริมห้วยกลางป่าสน ห่างจากถนนเชียงใหม่-แม่สะเรียง ประมาณ 4 กิโลเมตร เมื่อเจ้าหน้าที่ขุดหาศพพบเพียงโครงกระดูก ไม่มีเสื้อผ้าแม้แต่ชิ้นเดียว ที่กะโหลกศีรษะมีร่องรอยถูกตีด้วยของแข็งจนยุบและแตกหลายจุด หลังตรวจสอบแพทย์นิติเวชเก็บรวบรวมชิ้นส่วนทั้งหมดไปตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดอีกครั้ง

"เมื่อ 2 ปีที่แล้วได้รู้จักกับ น.ส.รุ่งนภา เนื่องจากโทรศัพท์มาผิดเบอร์ จึงเริ่มชวนคุยและคบหากัน ต่อมาวันที่ 15 มีนาคม น.ส.รุ่งนภาโทรศัพท์ให้ไปรับที่หน้าโรงเรียนจึงยืมรถจักรยานยนต์เพื่อนร่วมงานที่โรงพยาบาลสวนปรุงขี่ไปรับ มายังหอพักของผมที่ถนนสามล้าน ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ แต่เมียมาเห็นจึงมีปากเสียงกัน ผมจึงพา น.ส.รุ่งนภาขี่รถออกไป ตั้งใจจะไปส่งที่บ้านใน อ.ป่าซาง จ.ลำพูน แต่ น.ส.รุ่งนภาไม่ยอมกลับบ้าน เมื่อไม่มีที่ไป ผมจึงขี่รถพาไปที่บ้านใน อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ แต่เมียอีกคน และลูก 2 คนอยู่ที่บ้าน จึงพา น.ส. รุ่งนภาไปนอนค้างในกระท่อมกลางป่าซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ" ว่าที่ ร.ต.เฉลิมชัยกล่าว

ผู้ต้องหารายนี้กล่าวอีกว่า หลังจากนอนค้างในกระท่อมถึงเวลาประมาณ 04.00 น. วันที่ 16 มีนาคม ได้มีปากเสียงอย่างรุนแรงกับ น.ส.รุ่งนภา เนื่องจากฝ่ายหญิงเกิดอาการหึงหวง จึงเดินออกจากกระท่อม แต่ น.ส.รุ่งนภาวิ่งมาฉุดเอาไว้ ด้วยความโมโหจึงคว้าท่อนไม้ตีที่ศีรษะจนแน่นิ่ง จากนั้นอุ้มร่างไปนอนกอดไว้จนรุ่งเช้าจึงรู้ว่า น.ส.รุ่งนภาเสียชีวิตแล้ว

ว่าที่ ร.ต.เฉลิมชัย อดีตเคยเป็นนักกรีฑาทีมชาติ ประเภทวิ่งมาราธอน ลงแข่งกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่ จ.เชียงใหม่ นอกจากนี้ยังเป็นอดีตนักกีฬารักบี้เยาวชนทีมชาติ และนักมวยปล้ำทีมชาติ ต่อมาได้ทำงานเป็นผู้ช่วยแพทย์ ที่โรงพยาบาลสวนปรุง จ.เชียงใหม่

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook