แม่บังคับลูก ขายตัว-จนบ้า

แม่บังคับลูก ขายตัว-จนบ้า

แม่บังคับลูก ขายตัว-จนบ้า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
มูลนิธิคุ้มครองเด็กแจ้งจับพ่อบุญ ธรรมหื่นอนาจาร 2 ด.ญ. บังคับให้อมนกเขา เผยอาศัยช่วงที่เมียตัวเองไม่อยู่บ้านบังคับข่มขืนกระทำอนาจารหลาย ครั้ง ต่อมายังบังคับให้สำเร็จความใคร่ทางปากอีก เหยื่อสุดทนจึงหนีออกจากบ้านมาพบตำรวจ พาไปขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิคุ้มครองเด็กแจ้งความดำเนินคดีกับพ่อบุญธรรม ข้อหาข่มขืนเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ส่วนอีกคดีที่พัทยาแม่บังคับลูกสาวขายตัวจนบ้า ส่วนฝรั่งซื้อบริการหนีกลับประเทศแล้ว เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 14 ม.ค. ที่สน.ประเวศ นายมนตรี สินทวิชัย หรือ ครูยุ่น เลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองเด็ก พาด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 12 ปี เดินทางเข้าพบพ.ต.ท.ภูมอัควุฒิ โพธิ์ประสิทธิ์ พนักงานสอบสวน (สบ.3) สน.ประเวศ เพื่อแจ้งความว่าถูกนายประเวช ลิ้มชูวงศ์ ผู้เป็นนายจ้างและพ่อบุญธรรมล่วงเกินทางเพศ บังคับให้อมนกเขา ด.ญ.เอ ให้การว่า ก่อนหน้านี้ตนอาศัยอยู่กับพ่อแม่ ซึ่งมีอาชีพทำไร่ข้าวโพดอยู่ที่อ.พบพระ จ.ตาก และเรียนหนังสืออยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในอ.พบพระ ถึงแค่ชั้นป.4 พ่อก็ให้ออกจากโรงเรียนมาช่วยทำไร่ข้าวโพด เนื่องจากทางบ้านฐานะยากจนไม่มีเงินส่งเสีย ต่อมาหลวงพ่อเฉลิม วัดโนนเมือง จ.นครราชสีมา ให้เจ้าหน้าที่ของวัดมารับตนและเด็กในหมู่บ้านไปอุปการะเลี้ยงดูที่วัดดังกล่าว พร้อมทั้งให้ตนกับเพื่อนๆ เข้าเรียนชั้นป.4 อีกครั้งที่โรงเรียนมัธยมพุทธเกษตร หลังจากนั้นประมาณ 1 ปี มีหลวงพ่อเพิ่ม วัดบุญ ต.บ้านชวน อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ เข้ามาเลี้ยงอาหารเด็กๆ ในวัดโนนเมือง พร้อมทั้งขอตนกับเพื่อนอีก 6 คน ไปเลี้ยงดูอุปการะที่วัดบุญ เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระของหลวงพ่อเฉลิม พร้อมทั้งให้ตนกับเพื่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนบ้านโคตะกอ (ประชาสามัคคี) ด.ญ.เอให้การต่อว่า หลังจากนั้นอีก 1 ปีต่อมา มีนางแดง พักอาศัยอยู่ในจ.ชัยภูมิ และรู้จักกับหลวงพ่อทั้ง 2 รูป เข้ามาทำบุญที่วัด ก่อนจะขอตนและด.ญ.รักษ์ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี มาอุปการะเลี้ยงดู พร้อมทั้งส่งเสียให้เรียนหนังสือแทนเพื่อลดภาระหลวงพ่อเพิ่ม จนเวลาผ่านไป 1 เดือน นายประเวช ซึ่งเป็นญาติของนางแดง เดินทางมาเยี่ยมนางแดงที่จ.ชัยภูมิ และขอตนกับด.ญ.รักษ์ มาเลี้ยงดูเป็นลูกบุญธรรม อ้างจะส่งเสียให้เรียนหนังสือสูงๆ พวกตนทั้งสองคนจึงมาอยู่กับนายประเวช ที่บ้านเลขที่ 12/85 หมู่บ้านเสรีวิลล่า แขวงสวนหลวง เขตประเวศ ตั้งแต่เดือน ก.ค.ปี 2551 ด.ญ.เอให้การต่อว่า หลังจากมาพักอยู่ที่กทม. นายประเวชไม่ได้ส่งเสียให้เรียนหนังสือแต่อย่างใด แต่ให้มาทำงานในฐานะคนรับใช้ จนกระทั่งวันหนึ่งในเดือนต.ค.51 ที่ผ่านมา ภรรยานายประเวช เดินทางไปต่างจังหวัด และนายประเวช กลับจากทำธุระมานอกบ้าน เห็นบ้านไม่สะอาด เลยทำโทษทั้งสองคน ด้วยวิธีให้ตบกันเอง แต่พวกตนตบกันไม่แรงตามที่นายประเวชต้องการ นายประเวชจึงโกรธจัด บังคับให้ตนทั้งสองคนถอดเสื้อผ้าออกเหลือแต่กางเกงในแล้วให้ตบกันใหม่ แต่นายประเวชก็ยังไม่พอใจ บังคับให้ตนทั้งสองคนถอดกางเกงในอีก และให้หาผ้ามาผูกตาแล้วใช้ไม้ตีกันต่อจนกระทั่งนายประเวชพอใจ จึงอุ้มด.ญ.รักษ์ ออกไปกระทำชำเรานอกห้อง ด.ญ.เอ กล่าวอีกว่า ไม่กี่วันต่อมาระหว่างที่นายประเวชอยู่ลำพังกับพวกตน จึงใช้ผ้าผูกตาพวกตนอีกครั้งแล้วบังคับให้ตนทั้งสองคนสลับกันใช้ปากสำเร็จความใคร่ให้ และทำแบบนี้อีก 3 ครั้งในช่วงเดือนต.ค.-ธ.ค.51 ที่ผ่านมา ซึ่งทุกครั้งเจ้าตัวจะนั่งเก้าอี้ถอดกางเกงถ่างขารอ แต่ครั้งหลังๆ ตนจะพยายามร้องและหลบเลี่ยง นายประเวช จึงให้ด.ญ.รักษ์ ทำให้มากกว่า จนกระทั่งตัดสินใจหนีออกมาจากบ้านของนายประเวช เมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา แล้วเดินไปตามถนนโดยไม่รู้ว่าจะไปไหน จนเวลาประมาณ 22.00 น. มาพบตำรวจสน.ประเวศ ทางตำรวจจึงประสานให้มูลนิธิฯมารับตนไปดูแล ต่อมาเวลาประมาณ 20.00 น. วันที่ 11 ม.ค. มีญาติของนายประเวชประมาณ 7 คน เดินทางมาที่มูลนิธิคุ้มครองเด็กเพื่อแจ้งความประสงค์ขอรับตัวด.ญ.เอ กลับไปอุปการะต่อ แต่ด.ญ.เอมีอาการหวาดกลัวกลุ่มญาติๆ ของนายประเวช ทางมูลนิธิจึงไม่ยอมให้ด.ญ.เอกลับไป พร้อมทั้งเดินทางมาแจ้งความดังกล่าว ด้านพ.ต.ท..ภูมอัควุฒิ โพธิ์ประสิทธิ์ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี กล่าวว่า เบื้องต้นจะรับแจ้งความไว้พร้อมทั้งสอบปากคำผู้เสียหาย และเจ้าหน้าที่มูลนิธิคุ้มครองเด็กอย่างละเอียด จากนั้นก็จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับนายประเวช จากศาลพระโขนง ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี โดยในวันที่ 15 ม.ค.จะนัดผู้เสียหาย มาสอบปากคำร่วมกับอัยการ นักจิตวิทยา และนักสังคมสงเคราะห์ อย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนด.ญ.รักษ์ เด็กผู้เสียหายอีกคนนั้น จะประสานให้ฝ่ายสืบสวนติดตามช่วยเหลือต่อไป แต่คาดว่ายังอยู่ที่บ้านของนายประเวช อีกราย เมื่อเวลา 18.30 น.วันเดียวกัน พ.ต.ท.ปรีชา สมสถาน สารวัตรกลุ่มงานสวัสดิภาพเด็กเยาวชนและสตรี ศูนย์สืบสวนสอบสวน ตร.ภาค 2 พร้อมนายศุภกร โนจา ผอ.ศูนย์คุ้มครองสวัสดิภาพและพัฒนาเด็กพร้อมกำลัง และหมายจับศาลจังหวัดพัทยาเลขที่ จ.2051/2551 ลงวันที่ 22 ธ.ค.51 เข้าจับกุมน.ส.สมใจ หรือแหม่ม พรหมบุตร อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 123/147 ม.8 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ในข้อหาเพื่อตอบสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไปหรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิง โดยเข้าจับกุมได้ภายในสลัมริมถนนสายพัฒนาการ-มาบตาโต ม.13 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี นายศุภกรกล่าวถึงพฤติกรรมของน.ส.สมใจ ว่า เป็นเอเยนต์นำเด็กชายหรือหญิงอายุตั้งแต่ 8-15 ปี ไปขายบริการทางเพศสำเร็จความใคร่ให้กับชาวต่างชาติ แม้กระทั่งลูกสาวของน.ส.สมใจ เองก็นำไปขายบริการทางเพศแก่ชาวต่างชาติตั้งแต่อายุ 8 ขวบ จนปัจจุบันอายุ 15 ปี กระทั่งลูกสาวมีความผิดปกติทางด้านสภาพจิตใจ จนต้องส่งไปรักษาสุขภาพจิตที่โรงพยาบาลศรีธัญญา จ.นนทบุรี ส่วนค่าตอบแทนน.ส.สมใจจะได้จากชาวต่างชาติครั้งละ 500-1,000 บาทต่อคน และจะไปหักจากค่าตัวเด็กที่ชาวต่างชาติให้คนละ 300-400 บาท พ.ต.ท.ปรีชากล่าวถึงแนวทางการสอบสวนจนออกหมายจับน.ส.สมใจว่า หลังจากนายจอห์น โควด ชามู อายุ 56 ปี ชาวฝรั่งเศส ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมเมื่อวันที่ 25 ส.ค.48 ในข้อหากระทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กดังกล่าวจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และส่งดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา หน่วยสอบสวนย่อยโค้งดงตาล จากนั้นนายจอห์น โควด ชามู ประกันตัวก่อนหลบหนีกลับไปที่ประเทศฝรั่งเศส ในระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มงานสวัสดิภาพเด็กฯ สอบสวนเด็กอายุระหว่าง 8-15 ปี จำนวนกว่า 10 คน ที่เคยถูกนายจอห์น โควด ชามู กระทำอนาจาร จนทราบว่าน.ส.สมใจ เป็นเอเยนต์คอยส่งเด็กชายหรือหญิงให้กับนายจอห์น โควด ชามู สำเร็จความใคร่ทั้งภายนอกและภายในจนสามารถออกหมายจับได้ดังกล่าว เบื้องต้นน.ส.สมใจยังให้การปฏิเสธ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีพยานหลักฐาน จึงส่งตัวให้พ.ต.ท.ชัยพร ทองนาเพียง พนักงานสอบสวน สภ.บางละมุง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ภาพ : ประกอบจากอินเทอร์เน็ต ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของข่าว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook