กรุภาพเก่า "ราชวงศ์สุดท้าย" จากงานเลี้ยงเจ้าหญิงจีน สู่ฉากสะเทือนใจ สิ่งที่ปัจจุบันไม่มีแล้ว

ภาพถ่ายหายากจากสมัยราชวงศ์ชิง จากงานเลี้ยงของเจ้าหญิง ถึงชีวิตผู้คนในอดีต สู่ฉากสะเทือนใจ และสิ่งที่ยุคนี้ไม่มีให้เห็นแล้ว 

ภาพถ่ายขาวดำโบราณที่เก็บรักษามาจนถึงปัจจุบัน ได้กลายเป็นหน้าต่างสำคัญในการย้อนมองประวัติศาสตร์ของราชวงศ์ชิง ราชวงศ์สุดท้ายในยุคศักดินาของจีน แม้จะเป็นภาพที่มีอายุเก่าแก่ แต่กลับถ่ายทอดชีวิต ความรู้สึก และบรรยากาศในอดีตไว้อย่างชัดเจน

หนึ่งในภาพโดดเด่น แสดงให้เห็นอาคาร "จิงซวนเก๋อ" ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ ซึ่งในอดีตเคยมี "หอหวงเฮ่อโหลว" ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม แต่หอแห่งนี้ถูกเพลิงไหม้ทำลายไปก่อนหน้าที่ภาพจะถูกถ่าย ทำให้ไม่ปรากฏในภาพ

ภาพถ่ายของ "ผู่อี้" จักรพรรดิองค์สุดท้ายของราชวงศ์ชิงในวัยเด็ก ก็เป็นหนึ่งในหลักฐานหายากเช่นกัน เขาถือเป็นจักรพรรดิชิงเพียงพระองค์เดียวที่มีภาพถ่ายด้วยกล้องถ่ายภาพสมัยใหม่ และมีจำนวนภาพจำนวนมากที่ยังหลงเหลืออยู่

อีกหนึ่งภาพที่มีความหมายทางประวัติศาสตร์ แสดงให้เห็น "ประตูเฉาเยวี่ยนเหมิน" ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของกรุงปักกิ่ง สถานที่แห่งนี้เป็นเส้นทางสำคัญในการลำเลียงข้าวสารและเสบียงเข้าสู่เมืองหลวง สายน้ำหน้าประตูยังเคยเป็นแหล่งทำกินของชาวบ้าน ที่สามารถจับกุ้งปลาเพื่อดำรงชีพ

นอกจากนี้ยังมีภาพของสามีภรรยาฐานะดีคู่หนึ่ง ที่กำลังนั่งรับประทานอาหารหน้ากล้อง เป็นภาพที่ดูเผิน ๆ เหมือนเรียบง่าย แต่สิ่งที่น่าสังเกตคือ ทั้งคู่ไม่ได้ใช้โต๊ะอาหาร มีเพียงชามข้าว ตะเกียบ และถ้วยน้ำชา วางอยู่บนพื้น บ่งชี้ว่านี่เป็นฉากที่จัดขึ้นโดยเฉพาะเพื่อการถ่ายภาพ

สังเกตได้จากสีหน้าท่าทางของทั้งสองแสดงให้เห็นถึงความกลัวกล้องอย่างชัดเจน ฝ่ายชายเบือนหน้าหนีด้วยความเขินอาย ส่วนฝ่ายหญิงก็ก้มหน้ากับชามข้าว แทบไม่กล้ามองกล้อง มีเพียงบางจังหวะเท่านั้นที่แอบเหลือบตามองอย่างหวาดระแวง ในสายตาของพวกเขา กล้องถ่ายภาพดูไม่ต่างจากสัตว์ประหลาดที่ปล่อยควันและแสงได้ ทำให้ผู้คนในยุคนั้นหวาดกลัวอย่างมาก

ภาพงานเลี้ยงของเหล่าเจ้าหญิงและสุภาพสตรีจากทั้งราชสำนักชิงและต่างประเทศ ก็เป็นอีกหนึ่งภาพหายากที่มีความหมายทางการทูตอย่างยิ่ง ภายในภาพสามารถระบุได้ถึง “เจ้าหญิงหรงโซ่ว” บุตรสาวคนโตขององค์ชายกง ยี่ซิน ซึ่งต่อมาได้รับการอุปการะจากพระพันปีซูสีไทเฮา จึงได้รับพระราชอิสริยยศเป็นเจ้าหญิงอย่างเป็นทางการ

ตามบันทึกในหนังสือ สิบเยี่ยป่าเหวิน ของสำนักพิมพ์สมัยนั้น มีการกล่าวถึงนโยบายการต่างประเทศช่วงปลายราชวงศ์ว่า ซูสีไทเฮาใช้เจ้าหญิงในราชสำนักเป็นสื่อกลางทางการทูต โดยให้เข้าร่วมงานเลี้ยง พบปะกับบรรดาสตรีสูงศักดิ์จากนานาชาติ แม้ว่าบรรดาเจ้าหญิงเหล่านั้นจะไม่พึงพอใจกับหน้าที่นี้นัก

และอีกภาพที่น่าสนใจ คือชายคนหนึ่งกำลังยืนถือดาบในท่วงท่าการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ ดวงตาสะท้อนความกล้าหาญ แสดงถึงความนิยมในการฝึกวิชาแม่ไม้มวยจีนที่เฟื่องฟูในยุคนั้น

สุดท้ายคือภาพจากพิธีศพของ “หลี่ หงจาง” ขุนนางผู้ทรงอิทธิพลในราชสำนักชิง ภาพนี้ไม่เพียงบันทึกบรรยากาศของงานไว้อย่างละเอียด แต่ยังแสดงถึงขนบธรรมเนียมและระดับความเคารพต่อบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์จีน

ท้ายที่สุดภาพถ่ายเหล่านี้จึงไม่ใช่เพียงบันทึกทางสายตา แต่ยังเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ช่วยให้เราเข้าใจชีวิต ความคิด และสังคมของผู้คนในสมัยราชวงศ์ชิงได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

• AI เปิดโฉมจริง "หานเซียง" หญิงงามครองใจจักรพรรดิ เทียบเวอร์ชั่นซีรีส์ "องค์หญิงกำมะลอ"
• จาก "ซากศพ" สู่แบบจำลองรูปลักษณ์ "จักรพรรดิ" จีนโบราณ ต่างจากในซีรีส์ที่คนยุคนี้จินตนาการ!

ภาพในวัยเด็กของ