ไบโอเทคสสส.รุกโรงเรียนอีสานดูแลสุขภาพ

ไบโอเทคสสส.รุกโรงเรียนอีสานดูแลสุขภาพ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นายชายกร สินธุสัย นักวิชาการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ ไบโอเทค เปิดเผยว่า ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ดำเนินโครงการ "ความร่วมมือนำร่องโครงงานวิทยาศาสตร์เพื่อสุขภาพที่ดีกว่า" ที่ศูนย์คอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายภาคอีสานตอนบน โดยจัดทำโครงการทั่วประเทศ เปิดรับสมัครโรงเรียนเข้าร่วมโครงการ ให้ส่งครูแกนนำโรงเรียนๆละ 3-5 คน รุ่นละ 15-20 โรงเรียนในแต่ละภาค เข้าอบรมหลักสูตรค่ายโครงงานก่อน เพื่อนำเอาไปต่อยอดขยายผลที่โรงเรียน ทั้งการจำลองรูปแบบค่าย หรือสอนเสริมในชั่วโมงเรียนก็ได้


"เมื่อเด็กมีแนวทางก็จะไปหาโจทย์ ปัญญาหาไกลตัวที่เป็นประเด็นสุขภาพของตัวเอง ของเพื่อน ประเด็นสิ่งแวดล้อมของโรงเรียน ของครอบครัว แล้วใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์แก้ไขปัญหา อาศัยขั้นตอนการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ คือ ไปหาโจทย์ปัญหาข้อสงสัยที่เกี่ยวกับสุขภาพ แล้วไปสืบค้นข้อมูลพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง แล้วมาวางแผนออกแบบที่จะทำการแก้ไข จากนั้นก็ลงมือปฏิบัติการ แล้วก็ทำซ้ำทบทวน เมื่อได้ผลออกมาก็รายงานสรุป แล้วนำเอางานนั้นมาเสนอ"

นายชายกร กล่าวด้วยว่า โครงงานยังย่อยลงไปด้วยว่าประเภทไหน สำรวจ ประดิษฐ์ หรือทดลอง ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานของโครงงาน โดยประเด็นทั่วไปก็มีปัญหาเกี่ยวข้องกับขยะ ห้องน้ำห้องส้วม โรงครัวโรงอาหาร น้ำดื่มน้ำใช้ เรือนนอนหอพัก ซึ่งทุกโรงจะมีปัญหาเหมือนกัน นอกจากนั้นก็เป็นปัญหาเฉพาะของโรงเรียน ก็สามารถทำโครงงานขึ้นมาได้

นายชายกร กล่าวต่อว่า เรามีเครื่องข่ายทั่วประเทศ 250 โรง เฟสแรกเราทำมาแล้ว 2 ปี เป็นการอบรมให้ความรู้ครู เฟสที่สอง 3 ปี เราทำมาแล้วปีครึ่ง เป็นการเพิ่มเติมความรู้ใหม่ให้ทั้งครู และนักเรียน การอบรมจะเริ่มจากการใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสืบค้น ใช้สังคมออนไลน์ให้ถูกต้อง และเราก็มีสังคมออนไลน์ของเราเอง คือ

www.healthscience.ning.com เพื่อแลกเปลี่ยนโต้ตอบประเด็นวิทยาศาสตร์สุขภาพ ขณะนี้มีสมาชิกมากกว่า 1,000 ราย โรงเรียนไหนสนใจเข้าร่วมโครงการก็ติดต่อมาได้ที่ www.biotec.or.th

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าโครงการ "ความร่วมมือนำร่องโครงงานวิทยาศาสตร์เพื่อสุขภาพที่ดีกว่า" ในเขตพื้นที่ภาคอีสานตอนบน ได้รับการตอบรับอย่างดีจากโรงเรียนต่างๆ ครูและนักเรียนมีความตื่นตัวมากขึ้นในการดูแลสุขภาพของตัวเอง บุคคลในครอบครัว และชุมชน


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook