สุเทพรับหน้าที่ดูแลงานด้านความมั่นคงต่อ

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วานนี้ ระหว่างที่รอเข้าถวายสัตย์ปฏิญานตนต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ นั้น นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ เร่งทำคำสั่งงานที่จะให้ตนรับผิดชอบมีอะไรบ้าง ซึ่งตนจะดูงานด้านความมั่นคง เหมือนเดิม พร้อมกับ อาสาที่จะช่วยนายกรัฐมนตรี ในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ส่วน ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ ศอฉ. นั้น เห็นว่า พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทำหน้าที่ ผู้อำนวยการศูนย์ ได้ดีอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่ว่า ตนจะไม่รับตำแหน่งนี้ รวมทั้ง จะดูแลงานของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ด้วย ส่วนการประกาศใช้ พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน นั้น มีความความคิดที่จะยกเลิกอยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่เฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล เท่านั้น แต่จะรวมถึง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย เพราะ นายกรัฐมนตรี ให้แนวทางไว้ชัดเจนแล้ว

นอกจากนี้ นายสุเทพ กล่าวถึงกรณีที่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า มีกลุ่มคนแอบแฝงเคลื่อนไหวอยู่ในกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพื่อต้องการให้มีการปฏิวัติรัฐประหารนั้น ตนเห็นว่า ก็ต้องช่วยกันป้องกัน ซึ่งตนเชื่อว่า ประชาชน ต้องการให้มีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตรย์ทรงเป็นประมุข ทั้งนี้ มีบางคนบางกลุ่มที่ต้องการจะให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ขณะเดียวกัน ตนเชื่อมั่นว่า ทหารในทุกระดับจะไม่มีผู้ใดยุ่งเกี่ยวกับการเมือง


นายสุเทพ ยังกล่าวถึง การแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยย้ำว่า ในวันจันทร์ที่ 22 พ.ย.นี้ พรรคจะมีมติในเรื่องดังกล่าว ซึ่งตนได้พูดคุยกับ ส.ส.ของพรรค พอสมควรแล้ว และทุกคนก็เข้าใจ พร้อมจะสนับสนุนนายกรัฐมนตรี ดำเนินการ และตนก็ไม่รู้สึกกังวลใจ ขณะที่ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค และนายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรค ก็มีความเข้าใจทั้งหมดดี ส่วนกรณีที่ กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธปิไตย เตรียมชุมนุมคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น เชื่อว่า ประชาชนกลุ่มต่าง ๆ จะได้ข้อมูลข่าวสารที่พร้อมกัน และสามารถแยกแยะได้ว่า สิ่งใดสมควร หรือ ไม่ควร ขณะเดียวกัน เมื่อประชาชนแสดงความเห็นได้ และสมาชิกรัฐสภา ก็ต้องรับฟัง เพราะเป็นหน้าที่ ทั้งนี้ ในวันดังกล่าวเจ้าหน้าที่ จะต้องดูแลให้เกิดความเรียบร้อย และผู้ชุมนุม ก็อย่าขัดขวางเจ้าหน้าที่

พร้อมกันนี้ นายสุเทพ กล่าวถึง การปล่อยตัว 8 แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงว่า ตนยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าว และจะไม่เข้าไปแทรกแซง แต่ทั้งนี้หากจะต้องการให้สมานฉันท์ได้หรือไม่ ก็ต้องอยู่ที่ข้อเท็จจริง ว่า หากให้ประกันตัวแล้ว จะมีการทำให้ สถานการณ์วุ่นวาย หรือ หลบหนี หรือไม่ ซึ่ง อัยการ ก็จะคัดค้านการประกันตัว อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดก็อยู่ที่ดุลพินิจของศาล