ทนายตุลาการศาลรธน.ยื่นฟ้อง3จำเลยแพร่คลิป

ทนายตุลาการศาลรธน.ยื่นฟ้อง3จำเลยแพร่คลิป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นายณพล อรุณอาศิรกุล ทนายความรับมอบอำนาจ นายจรูญ อินทจาร นายสุพจน์ ไข่มุกด์ และ นายเฉลิมพล เอกอุรุ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ อดีตเลขานุการส่วนตัว ประธานศาลรัฐธรรมนูญ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย และบริษัทมติชน จำกัด(มหาชน) ในความผิดฐานหมิ่นประมาท ด้วยการโฆษณาและความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550

โดยตามฟ้อง ระบุว่า จำเลยทั้ง 3 ได้ร่วมกันจัดทำและเผยแพร่คลิปวิดีโอศาลรัฐธรรมนูญ ที่ใช้ชื่อว่า คลิปยุบพรรคประชาธิปัตย์ จำนวน 5 ตอน ลงในเว็บไซต์ยูทูปในวันที่ 14 ต.ค. 2553 ต่อมา นายพร้อมพงศ์ ได้ออกมาแถลงข่าว เปิดเผยคลิปวิดีโอ ดังกล่าว ในลักษณะตอกย้ำ ทำให้ประชาชนเข้าใจผิด คิดว่าภาพและเสียงเป็นของจริง และในวันที่ 29 ต.ค.2553 ได้มีคลิปอีก 3 ตอน เผยแพร่ลงในเว็บไซต์ยูทูป โดยใช้ชื่อว่า พฤติกรรมศาลรัฐธรรมนูญไทย

ส่วนจำเลยที่ 3 ได้นำภาพและเสียง ดังกล่าว มาเผยแพร่ซ้ำ ในวันที่ 30 ต.ค. พร้อมทั้งขอให้ศาลพิจารณาลงโทษจำเลยทั้ง 3 ตามกฎหมาย ให้จำเลยที่ 3 ทำลายข้อมูลในเว็บไซต์และให้จำเลยทั้ง 3 ลงพิมพ์โฆษณา คำพิพากษาคดีในหนังสือมติชนและข่าวสด เต็ม 1 หน้ากระดาษ เป็นเวลา 3 เดือน ศาลรับคำฟ้องไว้พิจารณา และนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ต่อไป


ด้าน นายจรูญ อินทจาร นายสุพจน์ ไข่มุกด์ และ นายเฉลิมพล เอกอุรุ ตุลาการ ศาลรัฐธรรมนูญ ได้ออกคำแถลงการณ์ร่วม ถึงกรณีที่มอบให้ นายณพล อรุณอาศิรกุล ทนายความ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องดำเนินคดีทางอาญากับ นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ อดีตเลขานุการ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย และบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) ในฐานความผิด พ.ร.บ. ว่าด้วยคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา กรณีที่มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอ ผ่านเว็บไซต์ และสื่ออื่น ว่า สาเหตุที่ต้องฟ้องคดี เนื่องจากตุลาการผู้ถูกพาดพิง จำเป็นต้องใช้สิทธิ์ปกป้องเกียรติยศ และศักดิ์ศรีของตน และสถาบันศาลรัฐธรรมนูญ โดยชี้แจงว่า การโกงข้อสอบ และออกคลิปวิดีโอเป็นเรื่องเท็จ เพราะตุลาการไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ในการออกข้อสอบ ซึ่งการจัดการสอบ เป็นหน้าที่ของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ และเป็นขั้นตอนที่เป็นความลับทางราชการ

ทั้งนี้ ตุลาการเห็นว่า ขบวนการจัดทำคลิปวีดีโอดังกล่าว เป็นการหมิ่นสถาบันเบื้องสูง และสถาบันยุติธรรมของไทย โดยการเผยแพร่มุ่งหมายในลักษณะข่มขู่ และแบล็กเมล์ ตุลาการ ให้กระทำตามความประสงค์ของบุคคล ในขบวนการ

อย่างไรก็ตาม ตุลาการทั้ง 3 ยืนยันว่า ไม่ได้แสดงท่าทีสยบยอม หรือ ส่งสัญญาณที่จะดำเนินการตามที่ข่มขู่ ดังนั้น จึงต้องใช้สิทธิ์ฟ้องคดีนี้เอง เพื่อพิสูจน์ความจริงตามขั้นตามกฎหมาย และเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ส่วนบุคคลที่น่าจะมีส่วนร่วม ต่อการกระทำความผิด ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook