นายกฯเชื่อถกรธน.รื่น-รู้วิรัชพ้นทีมกม.
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การอภิปรายร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในวันแรกว่า ยังคงเป็นไปตามปกติ เช่นเดียวกับ สถานการณ์การชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งเชื่อว่าการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนจะผ่านความเห็นชอบหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของสภา ซึ่งอยากให้ผู้ชุมนุมรับฟังการอภิปรายเพื่อเข้าใจถึงเหตุผล และเนื้อหาสาระ โดยย้ำว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ของคณะรัฐมนตรีไม่มีปัญหา แต่เป็นความหวาดกลัว ว่าจะมีการสอดไส้ เรื่องของการนิรโทษกรรม ซึ่งยืนยันว่า ไม่สามารถทำได้ ส่วนชั้นกรรมาธิการ หากมีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหา ก็จะต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาอีกครั้ง ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า การแก้ไขรัฐธรรรมนูญในครั้งนี้ต้องเป็นไปตามหลักการ ที่คณะกรรมการศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามข้อเสนอของคณะกรรมการสมานฉันท์ ที่มีนายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ เป็นประธาน ซึ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็น 1 ใน 3 ของเงื่อนไข ที่จะนำไปสู่การเลือกตั้ง โดยเหลือเพียง สถานการณ์ความสงบ ที่จะประเมินจากการเลือกตั้งซ่อมที่จะมีขึ้น นอกจากนี้ อยากเชื่อว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะไม่เป็นประเด็นความขัดแย้งภายในพรรค ซึ่งจากการได้พูดคุย กับอดีตหัวหน้าพรรคทั้ง 2 คน ก็ไม่มีปัญหาอะไร
นายกรัฐมนตรี ยังได้เปิดเผยถึง ผลการประชุมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ วานนี้ ว่าที่ประชุมมีมติให้นายวิรัช ร่มเย็น ส.ส. ระนอง พ้นจากคณะทำงาน ต่อสู้คดียุบพรรคประชาธิปัตย์ และพ้นจากการเป็นทีมกฎหมายของพรรค จากกรณีที่มีภาพปรากฎในคลิป ที่ไปพบกับเลขานุการ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ที่มีการอ้างว่า เป็นการพยายามล็อบบี้ คดียุบพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งคณะทำงานที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีดังกล่าวเห็นว่า เป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
นอกจากนี้ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ยังเห็นว่า นายวิรัช ควรพ้นจากตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคด้วย แต่ไม่มีอำนาจสั่งการได้ เพราะต้องผ่านการพิจารณาของที่ประชุมใหญ่วิสามัญของพรรคอย่างไรก็ตาม ได้มีคนไปพูดคุย ถึงเรื่องดังกล่าวกับนายวิรัช แล้ว
นายกรัฐมนตรี ยังได้เปิดเผยถึง ผลการประชุมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ วานนี้ ว่าที่ประชุมมีมติให้นายวิรัช ร่มเย็น ส.ส. ระนอง พ้นจากคณะทำงาน ต่อสู้คดียุบพรรคประชาธิปัตย์ และพ้นจากการเป็นทีมกฎหมายของพรรค จากกรณีที่มีภาพปรากฎในคลิป ที่ไปพบกับเลขานุการ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ที่มีการอ้างว่า เป็นการพยายามล็อบบี้ คดียุบพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งคณะทำงานที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีดังกล่าวเห็นว่า เป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
นอกจากนี้ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ยังเห็นว่า นายวิรัช ควรพ้นจากตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคด้วย แต่ไม่มีอำนาจสั่งการได้ เพราะต้องผ่านการพิจารณาของที่ประชุมใหญ่วิสามัญของพรรคอย่างไรก็ตาม ได้มีคนไปพูดคุย ถึงเรื่องดังกล่าวกับนายวิรัช แล้ว