ศาลพิพากษาสาวขายซีดี10แผ่นรอกำหนดโทษ2ปี

ศาลอาญาธนบุรี พิพากาษาคดี น.ศ.ขายซีดีภาพยนตร์ 10 แผ่น พิเคราะห์ทำผิดจริง แต่ให้รอกำหนดโทษไว้ 2 ปี ห้ามกระทำความผิดซ้ำ

(25 พ.ย.) ศาลอาญาธนบุรี อ่านคำพิพากษาในคดีที่ พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษ ฝ่ายคดีอาญาธนบุรี 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางสาว สุดาวดี โกมลวิทชญ์ เป็นจำเลยในความผิดตาม พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดีทัศน์ พ.ศ.2551 หลังถูกตำรวจ สน.บางมด จับกุมดำเนินคดี ขายซีดีภาพยนตร์ จำนวน 10 แผ่น บริเวณสะพานลอยถนนพระราม 2 เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ที่ผ่านมา

ซึ่ง นางสาวสุดาวดี ได้เข้าขอความเป็นธรรม กับ พลตำรวจเอก พงศพัศ พงษ์เจริญ ที่ปรึกษา สบ 10 ในสมัยดำรงตำแหน่ง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยรับสารภาพว่า กระทำทำผิดตามฟ้องจริง แต่จากการสืบเสาะประวัติ พบว่า ไม่เคยกระทำผิดมาก่อน ประกอบกับครอบครัวมีฐานะยากจน อีกทั้งจำเลยยังอยู่ระหว่างการศึกษาเล่าเรียน ศาลจึงให้รอการกำหนดโทษไว้ 2 ปี โดยห้ามกระทำผิดซ้ำ และให้มารายงานตัวต่อศาลตามนัด ภายหลังฟังคำพิพากษา นางสาวสุดาวดี กล่าวขอบคุณ ในความเมตตาของศาล และยืนยันว่า จะไม่กระทำผิดซ้ำอีก

 

ความเดิม 

น.ส.สุดาวดี โกมลวิทชญ์ ในเกิดเหตุไม่มีเงินซื้อข้าวกิน จึงได้นำซีดีภาพยนตร์เก่าจำนวน 10 แผ่น ออกไปวางขายบริเวณสะพานลอยดังกล่าว ปรากฏว่าได้มีตำรวจ สน.บางมด เข้ามาจับกุม แล้วถูกกักขังแทนค่าปรับ โชคดีที่ทาง พล.ต.ท.พงศพัศ ได้นำเงินสด 1 แสนบาทไปจ่ายค่าปรับแทนให้ ทั้งนี้ช่วงที่ถูกจับกุมยังถูกเรียกเงิน 2,000 บาท แลกกับการไม่ดำเนินคดี แต่ตนไม่มีจึงถูกนำส่ง พ.ต.ท.สมศักดิ์ ทองภู่ พงส.(สบ 3) สน.บางมด ดำเนินคดี ข้อหาประกอบกิจการให้เช่า แลกเปลี่ยนหรือจำนำภาพยนตร์ที่เป็นแผ่นวีซีดีภาพยนตร์อันเป็นวัสดุที่มีการบันทึกภาพและเสียงและจำหน่ายในราชอาณาจักรซึ่งภาพยนตร์ที่ไม่ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์