แดน ดนัยลั่นดำเนินคดีก้อยถึงที่สุด
ดารานักแสดงหนุ่มชื่อดัง แดน ดนัย สมุทรโคจร เปิดใจแถลงข่าวต่อหน้าสื่ออีกรอบ หลังอดีตแฟนสาวก้อย แพรวพันธ์ สมพงษ์มิตร ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายนักแสดงหนุ่ม พร้อมอ้างว่านำน้ำยาล้างห้องน้ำ ผสมโซดาไฟ มากินเพื่อฆ่าตัวตาย ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม ที่ผ่านมา นักแสดงหนุ่มแดน ดนัย ได้ออกมาตอบโต้ พร้อมยอมรับว่า หวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนไม่กล้าพักอยู่บ้านคนเดียว และอาจจะประกาศขายบ้านทิ้ง พร้อมกับเผยว่าได้รับ SMS จากอดีตแฟนสาวขู่เผาบ้านอีกด้วย
" ผมอยากจจะมาเคลียร์ข้อมูลที่แท้จริง เพราะแดนเข้าใจว่า ที่ก้อยเค้าได้ออกมาแถลงข่าวออกมาแล้วนะครับ ผมก็รู้สึกว่า บางทีคนที่โกรธกันเนี่ย หรือว่าแค้นเนี่ย ความจริงมันจะเพี้ยนไปครับ สิ่งที่ก้อยเค้าคิดว่า เป็นความจริงเนี่ย ผมคิดว่ามันไม่ใช่ความจริง ที่แท้จริง ผมไม่ได้บอกว่าเค้าโกหกนะ เค้าอาจจะเห็นอะไร และเข้าใจไปเอง และความโกรธเค้าก็มีอยู่ค่อนข้างเยอะ แล้วอีกอย่างที่จะพูดถึงในการ แถลงข่าวครั้งนี้ คือตอนนี้แดนไม่รู้สึกปลอดภัยเลย แดนรู้สึกค่อนข้างอันตราย เวลาที่แดนอยู่ที่บ้านตัวเอง มันเป็นความรู้สึกที่น่ากลัวมาก ตอนนี้ผมได้ยินเสียงอะไรนิดๆ หน่อยๆ ผมก็จะระแวงแล้วครับ แดนยอมรับนะครับว่า เราเคยคบกัน แต่แดนกับก้อยเราเลิกกันมานานมากแล้วครับ ตั้งแต่เดือนที่ 5 ของปีนี้ แล้วก็เลิกกันจริงๆ เลย ไม่ได้คบหรืออะไรกัน ตั้งแต่นั้นครับ การที่ได้เลิกกัน มันจะมีเหตุการณ์หนึ่ง ที่ก้อยได้พูดถึงมาแล้ว คือตอนนั้นก้อยเข้ามาที่บ้านผม แล้วผมไม่อยู่ เค้ายังมีกุญแจอยู่ อันนี้ก็คือ หลังจากที่เราได้เลิกกันเดือนกว่าๆ ตอนที่เค้าขนของออกไปจากบ้านผมเนี่ย เค้าค่อนข้างที่จะมีอารมณ์ค่อนข้างเยอะ แล้วเค้าก็ไปพังบ้านผมด้วย
ตอนแรกที่เค้าพูดแถลงข่าว เค้าบอกว่า เค้าแค่เอาของบางอย่างไป ซึ่งมันไม่จริงนะครับ ผมก็เลยเอาหลักฐานบางอย่างให้ดู ว่าตอนนั้นสภาพบ้านผมเป็นยังไง ซึ่งเค้าก็ทำร้ายข้าวของบ้านผมนะครับ คือถ้าผมเอาเรื่องเค้าตั้งแต่ตอนนั้นคือ ตำรวจเค้าบอกว่าเป็นคดีแพ่ง ซึ่งเค้าอาจจะต้องเข้าคุก เค้าก็มีสิทธิ์จะฆ่าตัวตาย เพราะว่าเค้ามีสภาพจิต ที่ไม่ค่อยจะดีนัก ผมก็เลยไม่ได้แจ้งความ แค่ลงบันทึกประจำวันไว้ครับ เค้าก็น่าจะเห็นใจผม แล้วก็ไม่ทำอะไรต่อ แต่ความเป็นจริงแล้ว มันไม่ได้เป็นอย่างนั้นครับ เพราะผมเก็บบ้านหลังจากเกิดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สิ่งที่ผมเจอตอนที่ผมเปลี่ยนผ้าปูเตียง ทำให้ผมช็อกมาก นั้นคือ มีดครับ คือเค้าเอามาด้วยแล้วก็เก็บไว้ข้างเตียงแดน ผมก็คิดว่าถ้าคนจะมาฆ่าตัวตาย สิ่งที่เค้าเอามามันเยอะไปแล้วครับ อันนี้ก็น่าจะเป็นเจตนาอื่น ผมก็ไม่รู้สึกปลอดภัยครับ แผลที่อยู่บนตัวผม คือ สิ่งที่เค้าทำหมด แต่แผลของเค้า ผมไม่ได้ทำอะไรเลย เค้าทำตัวเค้าเองหมด ทุกอย่างคือเค้าทำเองหมดเลย เค้าป้องกันตัวเองหมดเลย ตอนนี้ได้แจ้งความไปคือ ทำร้ายร่างกาย บุกรุก และก็ทำร้ายข้าวของ 3 อย่างครับ อีกอย่าง เพื่อนแดนที่มาจากอเมริกา คือสิ่งที่เข้าใจผิดนะครับ เค้าเป็นเพื่อนนะครับ ซึ่งก็ไม่ใช่สิ่งที่แปลกอะไร แล้วตอนก้อยเค้าเข้ามา เค้าก็คงคิดไปไกล แล้วก็เกิดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครับ เพื่อนผมที่มาจากอเมริกาเป็นเพื่อนผมครับ"
นักแสดงหนุ่มกล่าวต่ออีกว่า "ตอนนี้ที่หมู่บ้านผมติดภาพก้อยไว้ เพื่อที่จะไม่ให้เค้าเข้ามาในหมู่บ้านเด็ดขาด แล้วผมก็ล็อกกลอน บ้านก็ติดเหล็กดัด ผมเปลี่ยนประตู คือพยายามที่จะปลอดภัยที่สุด ผมก็ระวังตัวมากขึ้นครับ หลังเกิดเหตุการณ์คืนนั้น เค้าก็ส่งข้อความมาหาผมอีกว่า รู้นะว่าบ้านคุณอยู่ไหน แล้วก็หัวเราะ เป็นภาษาอังกฤษครับ ซึ่งตอนนั้นผมอยู่บ้านพ่อกับแม่ผม ตอนแรกผมคิดจะไม่เอาเรื่องนะ แต่เค้าก็ยังส่งข้อความมาอย่างนี้ วันรุ่งขึ้น ผมก็เลยไปแจ้งความ ตอนนี้ผมก็พยายามติดล็อกให้เยอะที่สุด ตอนนี้ผมก็พยายามติดที่ตรวจไฟ เพราะกลัวว่าเค้าจะมาเผาบ้าน เพราะนั่นคือสิ่งที่เค้าเคยขู่ผมมาก่อนครับ ผมคิดว่าจะขายบ้านแล้วหล่ะครับ เพราะผมอยู่ที่นั้น ก็ไม่ค่อยสบายใจ ส่วนเรื่องคดี ตอนนี้ก็มีการนัดสืบพยานแล้ว ทางเพื่อนแดนที่เป็นคนต่างชาติก็ไปขึ้นศาลสืบพยานแล้ว ทางศาลเองก็ตามตัวก้อยไป แต่เค้าก็ไม่ไป ถ้า 2 ครั้ง เค้าไม่ไปก็จะโดนหมายจับ"
"ตอนนี้ผมกลัวมากครับ ผมอยู่คนเดียวไม่ได้จริงๆ เรื่องที่เค้าบอกว่าอยู่กับผมฉันสามีภรรยา ก็ไม่จริงนะครับ เป็นแฟนกันปกติ มันมีช่วงหนึ่งที่ผมคิดว่า เค้าค่อนข้างมากแล้ว เป็นหนักมาก ผมก็เริ่มกลัวเค้า ก็เลยพาเค้าไปหาหมอครับ แล้วยาที่เค้าจ่ายมาคือยาที่เกี่ยวกับคนที่มีอาการแปรปรวนทางอารมณ์ค่อนข้างมากครับ ถ้าสมมุติว่า เค้าเป็นโรคจิตจริงๆ ก็จะนำตัวเค้าไปรักษา แล้วพอหายก็จับเข้าคุก"
" ผมอยากจจะมาเคลียร์ข้อมูลที่แท้จริง เพราะแดนเข้าใจว่า ที่ก้อยเค้าได้ออกมาแถลงข่าวออกมาแล้วนะครับ ผมก็รู้สึกว่า บางทีคนที่โกรธกันเนี่ย หรือว่าแค้นเนี่ย ความจริงมันจะเพี้ยนไปครับ สิ่งที่ก้อยเค้าคิดว่า เป็นความจริงเนี่ย ผมคิดว่ามันไม่ใช่ความจริง ที่แท้จริง ผมไม่ได้บอกว่าเค้าโกหกนะ เค้าอาจจะเห็นอะไร และเข้าใจไปเอง และความโกรธเค้าก็มีอยู่ค่อนข้างเยอะ แล้วอีกอย่างที่จะพูดถึงในการ แถลงข่าวครั้งนี้ คือตอนนี้แดนไม่รู้สึกปลอดภัยเลย แดนรู้สึกค่อนข้างอันตราย เวลาที่แดนอยู่ที่บ้านตัวเอง มันเป็นความรู้สึกที่น่ากลัวมาก ตอนนี้ผมได้ยินเสียงอะไรนิดๆ หน่อยๆ ผมก็จะระแวงแล้วครับ แดนยอมรับนะครับว่า เราเคยคบกัน แต่แดนกับก้อยเราเลิกกันมานานมากแล้วครับ ตั้งแต่เดือนที่ 5 ของปีนี้ แล้วก็เลิกกันจริงๆ เลย ไม่ได้คบหรืออะไรกัน ตั้งแต่นั้นครับ การที่ได้เลิกกัน มันจะมีเหตุการณ์หนึ่ง ที่ก้อยได้พูดถึงมาแล้ว คือตอนนั้นก้อยเข้ามาที่บ้านผม แล้วผมไม่อยู่ เค้ายังมีกุญแจอยู่ อันนี้ก็คือ หลังจากที่เราได้เลิกกันเดือนกว่าๆ ตอนที่เค้าขนของออกไปจากบ้านผมเนี่ย เค้าค่อนข้างที่จะมีอารมณ์ค่อนข้างเยอะ แล้วเค้าก็ไปพังบ้านผมด้วย
ตอนแรกที่เค้าพูดแถลงข่าว เค้าบอกว่า เค้าแค่เอาของบางอย่างไป ซึ่งมันไม่จริงนะครับ ผมก็เลยเอาหลักฐานบางอย่างให้ดู ว่าตอนนั้นสภาพบ้านผมเป็นยังไง ซึ่งเค้าก็ทำร้ายข้าวของบ้านผมนะครับ คือถ้าผมเอาเรื่องเค้าตั้งแต่ตอนนั้นคือ ตำรวจเค้าบอกว่าเป็นคดีแพ่ง ซึ่งเค้าอาจจะต้องเข้าคุก เค้าก็มีสิทธิ์จะฆ่าตัวตาย เพราะว่าเค้ามีสภาพจิต ที่ไม่ค่อยจะดีนัก ผมก็เลยไม่ได้แจ้งความ แค่ลงบันทึกประจำวันไว้ครับ เค้าก็น่าจะเห็นใจผม แล้วก็ไม่ทำอะไรต่อ แต่ความเป็นจริงแล้ว มันไม่ได้เป็นอย่างนั้นครับ เพราะผมเก็บบ้านหลังจากเกิดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สิ่งที่ผมเจอตอนที่ผมเปลี่ยนผ้าปูเตียง ทำให้ผมช็อกมาก นั้นคือ มีดครับ คือเค้าเอามาด้วยแล้วก็เก็บไว้ข้างเตียงแดน ผมก็คิดว่าถ้าคนจะมาฆ่าตัวตาย สิ่งที่เค้าเอามามันเยอะไปแล้วครับ อันนี้ก็น่าจะเป็นเจตนาอื่น ผมก็ไม่รู้สึกปลอดภัยครับ แผลที่อยู่บนตัวผม คือ สิ่งที่เค้าทำหมด แต่แผลของเค้า ผมไม่ได้ทำอะไรเลย เค้าทำตัวเค้าเองหมด ทุกอย่างคือเค้าทำเองหมดเลย เค้าป้องกันตัวเองหมดเลย ตอนนี้ได้แจ้งความไปคือ ทำร้ายร่างกาย บุกรุก และก็ทำร้ายข้าวของ 3 อย่างครับ อีกอย่าง เพื่อนแดนที่มาจากอเมริกา คือสิ่งที่เข้าใจผิดนะครับ เค้าเป็นเพื่อนนะครับ ซึ่งก็ไม่ใช่สิ่งที่แปลกอะไร แล้วตอนก้อยเค้าเข้ามา เค้าก็คงคิดไปไกล แล้วก็เกิดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครับ เพื่อนผมที่มาจากอเมริกาเป็นเพื่อนผมครับ"
นักแสดงหนุ่มกล่าวต่ออีกว่า "ตอนนี้ที่หมู่บ้านผมติดภาพก้อยไว้ เพื่อที่จะไม่ให้เค้าเข้ามาในหมู่บ้านเด็ดขาด แล้วผมก็ล็อกกลอน บ้านก็ติดเหล็กดัด ผมเปลี่ยนประตู คือพยายามที่จะปลอดภัยที่สุด ผมก็ระวังตัวมากขึ้นครับ หลังเกิดเหตุการณ์คืนนั้น เค้าก็ส่งข้อความมาหาผมอีกว่า รู้นะว่าบ้านคุณอยู่ไหน แล้วก็หัวเราะ เป็นภาษาอังกฤษครับ ซึ่งตอนนั้นผมอยู่บ้านพ่อกับแม่ผม ตอนแรกผมคิดจะไม่เอาเรื่องนะ แต่เค้าก็ยังส่งข้อความมาอย่างนี้ วันรุ่งขึ้น ผมก็เลยไปแจ้งความ ตอนนี้ผมก็พยายามติดล็อกให้เยอะที่สุด ตอนนี้ผมก็พยายามติดที่ตรวจไฟ เพราะกลัวว่าเค้าจะมาเผาบ้าน เพราะนั่นคือสิ่งที่เค้าเคยขู่ผมมาก่อนครับ ผมคิดว่าจะขายบ้านแล้วหล่ะครับ เพราะผมอยู่ที่นั้น ก็ไม่ค่อยสบายใจ ส่วนเรื่องคดี ตอนนี้ก็มีการนัดสืบพยานแล้ว ทางเพื่อนแดนที่เป็นคนต่างชาติก็ไปขึ้นศาลสืบพยานแล้ว ทางศาลเองก็ตามตัวก้อยไป แต่เค้าก็ไม่ไป ถ้า 2 ครั้ง เค้าไม่ไปก็จะโดนหมายจับ"
"ตอนนี้ผมกลัวมากครับ ผมอยู่คนเดียวไม่ได้จริงๆ เรื่องที่เค้าบอกว่าอยู่กับผมฉันสามีภรรยา ก็ไม่จริงนะครับ เป็นแฟนกันปกติ มันมีช่วงหนึ่งที่ผมคิดว่า เค้าค่อนข้างมากแล้ว เป็นหนักมาก ผมก็เริ่มกลัวเค้า ก็เลยพาเค้าไปหาหมอครับ แล้วยาที่เค้าจ่ายมาคือยาที่เกี่ยวกับคนที่มีอาการแปรปรวนทางอารมณ์ค่อนข้างมากครับ ถ้าสมมุติว่า เค้าเป็นโรคจิตจริงๆ ก็จะนำตัวเค้าไปรักษา แล้วพอหายก็จับเข้าคุก"
สนับสนุนเนื้อหา
