ผบช.น.ให้ตร.แก๊งปล้นทรัพย์ออกราชการแล้ว

พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผย ความคืบหน้ากรณี ส.ต.ท.บัญชา พรหมจักร ผู้บังคับหมู่งานป้องกันและปราบปราม สน.บางรัก  ส.ต.ต.ธวัชชัย เรืองสุวรรณ ผู้บังคับหมู่งานป้องกันและปราบปราม สน.พระราชวัง และ นายพุทธิพร มูลโคตร อดีตทหารเรือ พร้อมพวก บุกเข้าปล้นทรัพย์บ้าน นายลักษมี ซิงค์ และ นางบาบิตา ซิงค์ 2 สามีภรรยา ที่มีอาชีพเร่ขายเสื้อผ้า พร้อมทำร้ายร่างกาย

ขณะนี้ได้มีการสั่งการให้ออกจากราชการไว้ก่อน ซึ่งในการพิจารณาบทลงโทษนั้นจะใช้มาตรฐานเดียวกันไม่ว่าจะเป็นตำรวจชั้นประทวนหรือชั้นผู้ใหญ่ ก็จะมีบทลงโทษทั้งทางวินัยและทางอาญาอย่างเด็ดขาด ไม่มีข้อยกเว้นใด ๆ ทั้งสิ้น

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ทั้งหมด เพื่อทำการสอบสวนหาข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินคดีต่อไป

 

ความเดิม

ตำรวจตั้งแก๊งตบทรัพย์ 2ผัวเมียแขก

พ.ต.ท.สมัคร ปัญญาวงศ์ พนักงานสอบสวน (สบ3) สน.ลุมพินี รับแจ้งว่ามีเหตุคนร้ายตบทรัพย์ชาวต่างชาติ ภายในบ้านไม่มีเลขที่ ซอยปลูกจิต ถนนพระราม 4 จึงรุดไปตรวจสอบพบผู้เสียหาย 2สามีภรรยาชาวอินเดียอยู่ในอาการตกใจ จากการสอบถามทราบว่ามีชายแต่งตัวคล้ายตำรวจ 3 คน ขอเข้าตรวจค้นภายในบ้านก่อนหยิบเงินสดและทรัพย์สินหลบหนีไป พวกตนจึงร้องขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านใกล้เคียงโดยมีพลเมืองดีขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อสกัดจับ

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อ สามารถสกัดจับได้ที่หน้าวัดธาตุทอง ถนนสุขุมวิท ก่อนส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ สน.ลุมพินี ดำเนินการ จากการสอบสวนทราบชื่อภายหลังคือ นายพงษ์สันต์ เนื่องจำนงค์ อายุ 39 ปี คนขับรถแท็กซี่ นายดำรงค์ ขุมทรัพย์ นายพุฒิพร มูลโคตร อดีตทหารเรือ  ส.ต.อ.ธวัชชัย เรืองสุวรรณ ผบ.หมู่ ป.สน.พระราชวัง ส.ต.ท.บัญชา พรหมจักร ผบ.หมู่ ป.สน.บางรัก

นอกจากนี้ตรวจค้น พบอาวุธปืนลูกโม่ ขนาด 9 มม. จำนวน 2 กระบอก พร้อมกระสุนเต็มลูกโม่ จากการสอบสวนทั้งหมดให้การปฏิเสธ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ร่วมกันปล้นทรัพย์ และพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ