รวบแล้ว'จิ๊บ ไผ่เขียว' คาห้องอยุธยา

รวบแล้ว'จิ๊บ ไผ่เขียว' คาห้องอยุธยา

รวบแล้ว'จิ๊บ ไผ่เขียว' คาห้องอยุธยา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
พล.ต.ต.อนุรักษ์ แตงเกษม ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า กำลังชุดเฉพาะกิจ ได้เข้าทำการจับกุมตัว นายนพพล หรือ จิ๊บ ประสงค์ศิล น้องชาย นายชาญชัย หรือ โจ๊ก ประสงค์ศิล ที่ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญ ภายในหมู่บ้านสินทิวาธานี หมู่ 2 ตำบลสามเรือน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นผู้ต้องหาก่อเหตุยิงถล่มรถน้องโตมี่ เสียชีวิต จากการสอบสวนในเบื้องต้น จิ๊บ ไผ่เขียว ให้การสารภาพแล้ว ส่วน ผู้ต้องหา ขณะนี้ ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไว้ ยังไม่มีการเปิดเผยว่า อยู่ที่ใด ส่วนชุดจับกุม เปิดเผยว่า ได้เข้าไปจับกุมเมื่อเวลา 02.00 น.เศษ เข้าไปในห้อง พบ นายจิ๊บ อยู่เพียงคนเดียว เพิ่งเปิดเข้าอยู่ใหม่ ภายในมีเพียง กระทะไฟฟ้า ที่ยังไม่ได้แกะกล่อง 1 ใบ และมาม่าจำนวนหนึ่ง คาดว่า จะกบด่านอีกนาน แต่ก็มาถูกจับได้เสียก่อน

ด้าน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ที่ปรึกษา สบ10 รักษาราชการแทน ผบช.ภ.1 กล่าวว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวนายนพพล ได้จึงนำตัวมาสอบสวนถึงสาเหตุการใช้อาวุธปืนยิง ด.ช.โภคิน ซึ่งผู้ต้องหาก็ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา พร้อมทั้งระบุว่า ได้ขับรถจักรยานยนต์ตามที่พี่ชาย หรือโจ๊ก ไผ่เขียว เป็นผู้สั่งมาโดยตลอด ซึ่งก่อเหตุในลักษณะแบบนี้มาแล้วถึง 7 ครั้ง ทั้งนี้ การก่อเหตุทั้งหมด ไม่ได้มีเรื่องของการทวงหนี้ หรือแก็งซิ่ง หรือการขับรถปาดหน้ากัน แต่เป็นการใช้อาวุธปืนยิง เพราะอยากยิงเท่านั้น ซึ่งพื้นที่ก่อเหตุส่วนใหญ่อยู่ในเขต สภ.พระอินทร์ราชา

พล.ต.อ.อัศวิน ยังกล่าวอีกว่า ในส่วนของผู้เป็นมารดา ที่ได้มีการติดต่อกับลูกชายให้เข้ามอบตัวนั้น ส่วนตัวแล้วก้เข้าใจว่าผู้เป็นแม่ก็ย่อมห่วงลูกเป็นธรรมดา แต่ในเมื่อได้ก่อเหตุแล้ว ก็จะต้องรับโทษที่ได้ก่อขึ้นเอาไว้ เพราะทำให้ผู้อื่นต้องเสียชีวิต รวมรวมไปถึงคดีค้ายาบ้าอีก

ซึ่งจากการสอบสวนพบว่า ผู้ต้องหานั้นมีพฤติกรรมที่ชอบ โอ้อวด และเมื่อก่อเหตุ ก็จะโทรไปบอกให้เพื่อนมาดู และเป็นคนที่มีอีโก้สูง ซึ่งในคดีดังกล่าว แม้ นายจิ๊บ จะให้การว่า ไม่ได้เป็นคนยิง แต่เป็นคนขี่รถ อัตราโทษก็เท่ากัน นอกจากนี้ ยังพบว่า มีเพื่อนในกลุ่มมีพฤติกรรมเช่นเดียวกับ โจ๊กและจิ๊บ 2 พี่น้องด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ อยู่ระหว่างการกวาดล้างจับกุม และขอยืนยันว่า จากนี้ไป เหตุการยิงบนท้องถนนใน จ.อยุธยา จะไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว และในวันนี้ เจ้าหน้าที่ จะสอบถามความสมัครใจไปขอขมา น้องโตมี่ แต่หากผู้ต้องหา ไม่ยินยอมก็เป็นสิทธิ์ที่ไม่สามารถบังคับได้

อย่างไรก็ตาม สำหรับในเรื่องของคดียาเสพติดที่ตรวจพบในครั้งแรก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะต้องขยายผลต่อไป เพราะถือว่าเป็นผู้ค้ารายใหญ่ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยจะต้องขยายผลไปถึงผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด และสำหรับในประเด็นนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคงจะต้องขอปิดเป็นความลับเอาไว้ก่อน เพราะเกรงว่าจะกระทบต่อรูปคดี ซึ่งหากสืบสวนไปถึงบุคคลใดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะดำเนินคดีอย่างเฉียบขาด โดยไม่ละเว้นทั้งสิ้น เบื้อต้นผู้ต้องระบุว่า ค้ายาเสพติดมาประมาณ 7 เดือน แต่ในเรื่องนี้ทางตำรวจไม่เชื่ออย่างเด็ดขาด เพราะมูลค่าของทรัพย์สิน และเงินสดที่พบมีมากกว่า 50 ล้านบาท


นอกจากนี้ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง เปิดเผยว่า ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ควบคุมตัวทำการสอบสวนขยายผล โดยจัดกำลังตำรวจกองปราบชุดเฉพาะกิจ และตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา พร้อมทั้ง ตำรวจภูธรภาค 1 สนธิกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 13 จุดแล้ว ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ นายนพพล หรือ จิ๊บ เป็นผู้ชี้เป้า ส่วนความคืบหน้าการสืบค้น
จะรายงานให้ทราบต่อไป

ทางด้าน นางสำรวย ดีผิว มารดาของน้องโตมี่ ยืนยันว่า ต้องการขอให้ จิ๊บ มาขอมา และอยากให้มาทั้งครอบครัว เพื่อให้ พ่อแม่ ของจิ๊บและโจ๊ก รู้สึกความสูญเสีย ซึ่งจากนี้ไปตนเองก็ยังหวาดผวากลัวกับกลุ่ม 2 พี่น้องนี้ แม้ว่าจะถูกจับกุมไปแล้ว แต่แก๊งดังกล่าว และเพื่อนๆ ที่ก่อเหตุ ก็ยังมีอยู่ จึงเกรงว่าอาจกลับมาก่อเหตุกับตนได้อีก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook