เพลิงลุกไหม้รถยูโรวอด 7คัน โชคดีไม่มีคนเจ็บ - เสียชีวิต

เพลิงลุกไหม้รถยูโรวอด 7คัน โชคดีไม่มีคนเจ็บ - เสียชีวิต

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
(6ม.ค.) เวลา 04.00 น. พ.ต.ท.ประจวบ ขันทอง สารวัตรสอบสวน สน.แสมดำ ได้รับแจ้งเกิดไฟไหม้รถปรับอากาศร่วมบริการที่บริเวณอู่ บ.สหขนส่งธนบุรี ถ.ขุนเทียนชายทะเล 20 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานรถดับเพลิงเขตบางขุนเทียน และเขตใกล้เคียง จำนวน 10 คัน

ที่เกิดเหตุภายในอู่รถเมล์ มีโรงซ่อมและคลังน้ำมันอยู่ภายในอู่ เจ้าหน้าที่ พบรถปรับอากาศ สีฟ้า สาย 171 ของบริษัท วังศกาญจน์กิจ จำกัด วิ่งระหว่าง หมู่บ้านนักกีฬาแหลมทอง - เคหะธนบุรี และรถปรับอากาศสีฟ้า สาย 173 วิ่งระหว่าง เคหะธนบุรี -มีนบุรี ถูกเพลิงลุกไหม้ ระหว่างเกิดเหตุเกิดเสียงระเบิดของแก๊สเอ็นจีวี ที่ติดตั้งอยู่ภายในรถปรับอากาศดังขึ้นเป็นระยะ ๆ เจ้าหน้าที่ระดมฉีดน้ำสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ภายใน 10 นาทีหลังเกิดเหตุ สำหรับความเสียหายยรถปรับอากาศสาย 173 เสียหายจำนวน 4 คัน และสาย 171 เสียหายจำนวน 3 คัน

// //

จากการสอบสวน นางนัฐนันท์ ปิติทัญสวัสดิ์ อายุ 48 ปี ผู้จัดการอู่ดังกล่าว เปิดเผยว่า ปกติรถของบริษัทจะมีทั้งหมด 30 คัน จะปิดอู่ตอนเวลา 02.00 น.ของทุกวัน จะมีเพียงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเพียงคนเดียวเท่านั้นที่คอยดูแล และตอนเวลาประมาณ 04.00 น.ของทุกวันจะมีพนักงานขับรถ พนักงานเก็บตั๋ว จะเข้ามาตอกบัตรทำงาน และเซ็นชื่อ ก่อนเกิดเหตุประมาณ 03.00 น. เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยขณะทำหน้าที่นั่งอยู่ด้านหน้าประตูทางเข้า-ออก ระหว่างนั้นได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นที่บริเวณอู่ซ่อมรถด้านใน จึงได้วิ่งไปดูพบว่าเสียงระเบิดเกิดจากห้องเครื่องภายในรถเมล์ที่จอดรอซ่อมอยู่ ทั้ง 7 คัน โดยรถเมล์ทั้งหมดใช้ระบบแก๊สเอ็นจีวี

นางนัฐนันท์ กล่าวอีกว่า สำหรับเหตุที่เกิดขึ้น คาดว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายช่างน่าจะซ่อมเครื่องค้างไว้ ก่อนที่จะเดินทางกลับบ้าน คาดจะทำไฟฟ้าเกิดลัดวงจรก็เป็นได้ ซึ่งจะต้องรอการพิสูจน์จากเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้ง

ตะลุยข่าว : THE GREEN POLICE กองปราบฯ สู่ศตวรรษที่ 21

ในขณะที่หลายประเทศทั่วโลกสามารถระงับยับยั้งปัญหาอาชญากรรมให้ลดลงและควบคุมให้อยู่ในวงจำกัดได้ ตรงกันข้ามกับประเทศไทย กลับมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น และมีการกล่าวถึงในระดับนานาชาติว่า

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook