กทม.ตั้งกก.2 ชุดสอบไฟไหม้ ซานติก้าผับ-เสือป่าพลาซ่า

(5ม.ค.) นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกรุงเทพมหานคร(กทม.) เปิดเผยกรณีเพลิงไหม้อาคารเสือป่าพลาซ่า เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ว่า เหตุเพลิงไหม้อาคารเสือป่าพลาซ่าเกิดเมื่อวันที่ 4 ม.ค. เวลา 20.30 น. ซึ่งเป็นอาคาร 8 ชั้น ชั้นที่ 1-3 ใช้ประกอบการร้านค้าขายอุปกรณ์โทรศัพท์เคลื่อนที่ ชั้นที่ 4-8 เป็นที่พักอาศัย ที่ทำงาน การเผาไหม้ไม่มีเปลวไฟมีเพียงกลุ่มควันที่เกิดจากการเผาไหม้เท่านั้น เจ้าหน้าที่จากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ภายใน 4 ชั่วโมง และจากการตรวจสอบมีผู้ติดในอาคารประมาณ 40-50 คน มีเฮลิคอปเตอร์จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ความช่วยเหลือ 27 คน นอกนั้นลงทางรถกระเช้าของ กทม. และยังมีอีก 2 คนที่กระโดดลงมาจากชั้น 3 ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนการควบคุมเพลิงนั้นรถดับเพลิงของ กทม.ได้เข้าปฏิบัติการอย่างเต็มที่

นายพงศ์ศักติฐ์ กล่าวว่า ขณะนี้เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ได้ตั้งศูนย์ช่วยเหลือในที่เกิดเหตุเพื่อตรวจสอบหลักฐาน เอกสารของผู้ได้รับความเสียหาย ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บถูกส่งไปยังโรงพยาบาลกลาง ซึ่งส่วนใหญ่สามารถกลับบ้านได้แล้ว ทั้งนี้ ตนได้ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในระดับเขตกรณีการอนุญาตก่อสร้าง และการใช้อาคารเสือป่าพลาซ่า รวมถึงมาตรการป้องกันภายหลังการประกาศให้เป็นพื้นที่อันตรายห้ามเข้าใช้อาคารแล้ว ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นอาคารดังกล่าวมีทางหนีไฟแต่อยู่ภายในตัวอาคาร ขณะเดียวกันได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีสถานบันเทิงซานติก้า ผับ ด้วยเช่นกัน โดยให้เร่งสรุปรายงานให้ตนทราบโดยเร็ว

// //

ปลัด กทม.กล่าวว่า ส่วนการตรวจสอบอาคารต่างๆ ในพื้นที่ กทม.นั้น สำนักการโยธา สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้มีแผนการตรวจประจำปีอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมายังมีตกหล่น หรือมีการฝ่าฝืนของเจ้าของอาคารบ้าง ซึ่งจากนี้ไปจะต้องร่วมมือกันทั้ง กทม. ตำรวจ และผู้ประกอบการ ในการพิจารณาถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นที่ตั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น. นายพงศ์ศักติฐ์ พร้อมด้วยนางวรรณวิไล พรหมลักขโณ นางนินนาท ชลิตตานนท์ รองปลัด กทม. และ ผอ.เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ผอ.เขตวัฒนา และ ผอ.เขตพญาไท เดินทางเข้าพบนายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่กำกับดูแล กทม. เพื่อรายงานเหตุการณ์เพลิงไหม้ที่เสือป่าพลาซ่า สถานบันเทิงซานติก้า ผับ และเหตุรถบรรทุกน้ำมันคว่ำบนทางด่วนบริเวณด่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ให้รับทราบ

ตะลุยข่าว : THE GREEN POLICE กองปราบฯ สู่ศตวรรษที่ 21

ในขณะที่หลายประเทศทั่วโลกสามารถระงับยับยั้งปัญหาอาชญากรรมให้ลดลงและควบคุมให้อยู่ในวงจำกัดได้ ตรงกันข้ามกับประเทศไทย กลับมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น และมีการกล่าวถึงในระดับนานาชาติว่า