หนุ่มซิ่ง! ชนรถทางด่วน ป้ายแดงยับ-ดับคาที่

(18 ธ.ค.) พนักงานสอบสวน (สบ 3) งานศูนย์ควบคุมจราจรวิภาวดีรังสิต/ทางพิเศษ กก.2 บก.จร. ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถชนกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต บนทางยกระดับอุตราภิมุข หรือทางด่วนโทลเวย์ ฝั่งขาออก แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา จึงรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุอยู่เหนือบริเวณห้าแยกลาดพร้าว เป็นถนน 3 เลน ที่ช่องจราจรด้านซ้ายสุด พบรถยนต์เมอร์เซเดสเบนซ์ รุ่น E250 สีดำ สภาพหลังคาและฝากระโปรงหน้ารถเปิดออก กระจกและชิ้นส่วนรถแตกกระจายเต็มพื้น หน้ารถหมุนหันหัวกลับ ที่เบาะคนขับพบศพ นายอรรณพ นพโสภณ อายุ 29 ปี เสียชีวิตคาที่ ตรวจสอบภายในรถพบกระเป๋าผ้า 2 ใบ มีเงินสดจำนวนหลายหมื่นบาท จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ใกล้กันนั้นบริเวณช่องจราจรด้านขวาสุด พบรถบรรทุกน้ำ 6 ล้อของบริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) ด้านหลังพบรอยถูกชนจนบุบเข้าไปถึงล้อหลัง ส่วนด้านหน้าชนกับท้ายรถบรรทุกกรวยยางของบริษัทเดียวกันที่จอดอยู่ด้านหน้า ได้รับความเสียหายเล็กน้อย พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ที่ทราบชื่อในเวลาต่อมาคือ นายอารมณ์ กลิ่นหอม อายุ 55 ปี และ นายวิเชษฐ์ แผ่นทอง อายุ 42 ปี พนักงานของบริษัท ทางยกระดับดอนเมืองฯ ทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงแล้ว

นายสิทธิลักษณ์ บางดี อายุ 25 ปี พนักงานขับรถของบริษัท ทางยกระดับดอนเมืองฯ กล่าวให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนพร้อมด้วยนายอารมณ์ และนายวิเชษฐ์ ได้นำรถน้ำขึ้นมาทดสอบการระบายน้ำบนทางยกระดับ โดยจอดรถอยู่ช่องจราจรทางขวาสุด และได้นำกรวยยางไปวางเพื่อส่งสัญญาณให้รถที่ขับมาด้านหลังรู้ล่วงหน้าในระยะ 30 เมตร ทันใดนั้นรถของผู้ตายขับค่อมเลนที่ 2 และ 3 มาด้วยความเร็ว จนชนกรวยที่วางกั้นเอาไว้ ผู้ตายพยายามหักหลบไปทางซ้าย ทำให้หัวรถพุ่งไปหาที่กั้นขอบทาง ผู้ตายจึงหันหัวรถกลับมาทางขวาอย่างเร็วอีกครั้ง รถจึงพุ่งเข้ามาชนท้ายรถน้ำอย่างแรง ทำให้หลังคารถคันดังกล่าวเปิดออก และรถบรรทุกน้ำพุ่งไปชนท้ายรถกรวยยาง ก่อนรถของผู้ตายจะจอดนิ่งอยู่ทางช่องซ้ายสุด

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ฯ สอบสวนทราบว่า ผู้ตายขับรถมาด้วยความเร็วสูง ก่อนจะพุ่งชนกรวยยางที่เจ้าหน้าที่ของทางยกระดับวางกั้นเอาไว้ จากนั้นก็หักรถหลบไปทางซ้าย ก่อนจะหักกลับมาทางขวาแล้วพุ่งเข้าชนท้ายรถบรรทุกน้ำ จนทำให้นายอรรณพ เสียชีวิตคาที่ สำหรับสาเหตุที่แท้จริง คงต้องรอส่งศพให้สถาบันนิติเวช ชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตก่อน จึงจะสามารถสรุปหาสาเหตุของอุบัติเหตุดังกล่าวได้