กมม.เผยธิดาพบนายกอาจต่อรองประกันนปช.

กมม.เผยธิดาพบนายกอาจต่อรองประกันนปช.

กมม.เผยธิดาพบนายกอาจต่อรองประกันนปช.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ กล่าวถึงการที่ นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. เข้าพบกับ นายกรัฐมนตรี ว่าเป็นเรื่องที่น่าจับตา ว่าจะเป็นการที่รัฐบาลต่อรองกับ แกนนำกลุ่ม นปช.เรื่องของการให้ประกันตัวแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงที่ถูกคุมขังอยู่หรือไม่ ซึ่งในเรื่องนี้ นายกรัฐมนตรี จะต้องใช้ความระมัดระวัง เพราะอำนาจในการให้ประกันตัว เป็นอำนาจของศาลหรือ ฝ่ายตุลาการ ไม่ใช่อำนาจของฝ่ายบริหาร ซึ่งอาจหมิ่นเหม่ต่อการละเมิดกระบวนการยุติธรรม ทั้งนี้ยังมองว่า การที่ นางธิดา เข้าพบกับนายกรัฐมนตรี ทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากกลุ่ม นปช.เช่นกัน และอาจส่งผลกระทบต่อความเป็นเอกภาพ และการเกิดความขัดแย้งต่อการกระทำของนางธิดา ในระยะยาวได้

ทั้งนี้ นายสุริยะใส ยังกล่าวถึงการขึ้นเงินเดือนให้กับ ส.ส. และ ส.ว. ของรัฐบาลว่า เป็นการมุ่งเน้นคะแนนเสียงมากกว่าการยึดกรอบธรรมาภิบาล แต่รับผิดชอบต่อประชาชน ขณะที่บทบาทและผลงานของ ส.ส.และ ส.ว.ก็ยังถือว่า สอบไม่ผ่าน และไม่สามารถสร้างศรัทธาจากประชาชนได้ ส่วนการขึ้นเงินค่าตอบแทนให้กับ อบต. ทั่วประเทศนั้น เป็นแค่เพียงนโยบายการหาเสียงกับ อบต.ของพรรคภูมิใจไทย ที่ไม่ได้สะท้อนแนวนโยบายกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นอย่างจริงจัง

พร้อมกันนี้ นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ กล่าวถึง กรณีที่รัฐบาลเตรียมแถลงแนวนโยบายประชาวิวัฒน์ 5 มาตรการเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ ให้กับคนไทยทั่วประเทศว่า แนวนโยบายดังกล่าวเป็นแนวนโยบาย ที่มีฐานคิดไม่ต่างจากแนวคิดประชานิยมของระบอบทักษิณ ที่เน้นมาตรการลดแลกแจกแถม การปล่อยกู้เป็นหลัก ซึ่งทำให้รัฐบาลต้องจัดหางบประมาณจำนวนมาก จนอาจกระทบต่อวินัยทางการเงิน และสร้างภาระผูกพันให้กับประชาชนที่ต้องเป็นหนี้ และเกิดหนี้เสีย พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า อาจเป็นการติดสินบน ทางนโยบายของรัฐบาล เพื่อเป็นเครื่องมือหาเสียงกับประชาชนในช่วงเลือกตั้ง ซึ่งส่งผลให้ตัวเอง กลับมาเป็นรัฐบาลเพื่อสานต่อนโยบายดังกล่าว

อย่างไรก็ตามเห็นว่า หากรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ มีความจริงใจ และต้องการให้ประชาชนพึ่งตนเองได้ จะต้องมีแนวนโยบายที่สนับสนุน และส่งเสริมการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นอย่างเป็นรูปธรรมมากกว่านี้ ซึ่งตลอดระยะเวลา 2 ปี ของรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยังไม่มีนโยบายกระจายอำนาจอย่างแท้จริง โดยเฉพาะการจัดสรรงบประมาณอุดหนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook