ราชทัณฑ์เผยเข้มยาเสพติดเรือนจำเรื่องยาก

นายชาติชาย สุทธิกลม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงมาตรการกวาดล้างยาเสพติดในเรือนจำทั่วประเทศ ว่า เครือข่ายค้ายาเสพติดในเรือนจำเป็นปัญหาที่แก้ไขยาก แต่กรมราชทัณฑ์ ได้จำแนกผู้ต้องขัง คดียาเสพติดรายใหญ่ ที่ยังมีอิทธิพล และพฤติการณ์สั่งซื้อขายยาเสพติดได้ มาควบคุมเป็นพิเศษใน 3 เรือนจำ ความมั่นคงสูง ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง แดน 10 เรือนจำกลางคลองเปรมแดน 2 และเรือนจำกลางบางขวาง แดน 4 ซึ่งยอมรับว่า ในเรือนจำกลางคลองเปรม มีปัญหามาก เนื่องจากแดน 2 มีผู้ต้องขังถึง 800 คน กรมราชทัณฑ์จึงได้ปรับปรุงแดนคุมขังด้วยการประมวลข้อมูล และวิเคราะห์ข่าว ก่อนคัดย้ายให้เหลือเฉพาะผู้ต้องขังรายสำคัญ ไม่เกิน 200 คน แต่ต้องยอมรับว่า สภาพการค้ายาบ้า และยาไอซ์ ต่างจากเครือข่ายการค้าเฮโรอีน ซึ่งยาบ้า และยาไอซ์ ไม่จำเป็นต้องมีนายทุนชัดเจน เพราะตลาดกว้าง ผู้ค้ารายย่อยทุกคนเลื่อนขึ้น เป็นรายใหญ่ได้ตลอดเวลา เนื่องจากเทคโนโลยีการติดต่อสื่อสาร และการทำธุรกรรมการเงิน ช่วยอำนวย ความสะดวก

อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวอีกว่า รัฐบาลมีนโยบายชัดเจน และกำชับให้ปราบปรามอย่างเข้มงวด โดย ป.ป.ส. ได้ทำแผนระยะสั้น 10 เดือน เริ่ม ม.ค. 2554 เป็นต้นไป ทั้งการจู่โจมตรวจค้นก่อนปีใหม่ เพื่อป้องกันการ สะสมอาวุธ เหล้าหมัก ยาเสพติด เข้มงวดการส่งสิ่งของเข้าออก ส่วนข้าราชการหากพบว่า มีส่วนเกี่ยวข้อง จะถูกลงโทษขั้นเด็ดขาดทั้งทางวินัยและอาญา นอกจากนี้กรมราชทัณฑ์ จะปรับเรือนจำกลางคลองไผ่ เป็นสถานที่คุมขังนักค้ายาเสพติดรายย่อย ที่ยังไม่เลิกพฤติการณ์ และปรับเรือนจำกลางเขาบิน เป็นสถานที่คุมขัง
นักค้ายาเสพติดรายใหญ่ เพื่อแยกนักค้ารายย่อยออกจากนายทุน ตัดแขนขาเครือข่ายยาเสพติด ส่วนเรือนจำ กลางนครศรีธรรมราช และเรือนจำกลางพิษณุโลก จะเปิดรับระบายนักโทษจากเรือนจำกลางคลองเปรม และเครือนจำกลางบางขวาง