สาวควบซีวิคชนตู้9ศพรับทราบ2ข้อหาบชน.แล้ว

สาวควบซีวิคชนตู้9ศพรับทราบ2ข้อหาบชน.แล้ว

สาวควบซีวิคชนตู้9ศพรับทราบ2ข้อหาบชน.แล้ว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
สาววัย 17 ปี ที่ก่อเหตุขับรถยนต์เก๋ง ฮอนด้า ซีวิค ชนรถตู้โดยสาร จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับเจ็บ เดินทางมา พร้อมบิดา มารดา และทนายความ เพื่อมารับทราบข้อกล่าวหาที่ห้องปารุสกวัน 2 กองบัญชาการตำรวจนครบาล เรียบร้อยแล้ว โดยในขณะเดินทางมานั้น สาววัย 17 ปี มีสีหน้าเคร่งเครียดตลอดเวลา ทั้งนี้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ได้กล่าวว่า ในส่วนของข้อกล่าวหานั้น ได้แจ้งไว้ 2 ข้อหา คือ ขับรถโดยประมาทจึงทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต และขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตใบขับขี่ และได้ทำการแจ้งข้อหาสาววัย 17 ปี เพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น เนื่องจากมีพยานหลักฐานที่ชัดเจนว่าเป็นผู้กระทำผิดเพียงคนเดียว

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากเสร็จสิ้นการรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ส่งตัวสาววัย 17 ปี ไปที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนช่วยดูแลต่อไป

ด้าน นายสุพจน์ จินันทุยา และ นางโทโมโกะ นันโด ซึ่งทั้งคู่เป็นคุณอาและภรรยาของ อาจารย์ภิญโญ จินันทุยา อาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หนึ่งในผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์รถเก๋ง ฮอนด้าซีวิค ชนรถตู้สายหมอชิต ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต เดินทางมายังกองบัญชาการตำรวจนครบาล เนื่องจากทราบว่าสาววัย 17 ปี จะเดินทาง มารับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้ โดยการสอบถามเล่าว่าการเดินทางมาในวันนี้ของคนทั้ง 2 นั้น ไม่ได้เป็นการเดินทางเรียกร้องอะไร หรือ เพื่อที่จะเป็นข่าวแต่อย่างใด เพียงแต่ว่าต้องการมาสังเกตการณ์เท่านั้น เนื่องจากรู้ว่าสาววัย 17 ปี มารับทราบข้อกล่าวหา ในส่วนเรื่องของกฎหมายนั้น ทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้รับปากแล้วว่าจะช่วยอย่างเต็มที่ ซึ่งตนเห็นว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ควรดำเนินการด้วยความยุติธรรมเช่นกัน ทั้งนี้ตนทั้ง 2 ยังไม่พร้อมที่จะพูดอะไรมากไปกว่านี้ และยังไม่พร้อมที่จะพูดคุยกับสาววัย 17 ปี หากออกมาจากห้องรับทราบข้อกล่าวหา

อย่างไรก็ตาม การเข้าไปรับทราบข้อกล่าวหาของสาววัย 17 ปี นั้น เป็นไปเกือบ 1 ชั่วโมงแล้ว ซึ่งยังไม่มีทีท่าว่าจะออกมาแต่อย่างใด


ขณะที่ นายธวัชชัย ไทยเขียว อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กล่าวถึง กรณีเยาวชนอายุ 17 ปี ขับรถเก๋ง ฮอนด้าซีวิค ชนรถตู้โดยสารบนทางด่วนโทลล์เวย์ทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 ราย เข้ารับทราบข้อกล่าวหา ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลว่า เนื่องจากเยาวชนได้เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน จึงได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.คุ้มครองสิทธิเด็กตามมาตรา 26 อนุ 2 กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนไม่มีอำนาจควบคุมตัว ซึ่งในวันนี้ หากเจ้าหน้าที่สอบปากคำเบื้องต้นเสร็จต้องปล่อยตัวไป แต่หากยังได้ข้อมูลไม่ครบจะออกหมายนัดเป็นครั้งๆ เพื่อประมวลข้อมูลเสนอความเห็นต่อศาลภายใน 30 วัน จากนั้น ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลว่าจะมีดุลยพินิจอย่างไร

นายธวัชชัย ยังกล่าวว่า หากเจ้าของรถเก๋ง ฮอนด้าซีวิคคันดังกล่าวเป็นเยาวชน จะนำตัวเข้าสู่กระบวนการของสถานพินิจฯ รวมถึงบิดา มารดา ต้องร่วมรับผิดชอบด้วย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook