ผบ.ตร.สั่งเข้มอุปกรณ์ให้จนท.หลังEODดับ

พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้ากรณี ถึงกรณี เกิดเหตุระเบิดที่บริเวณหน้าตลาด ถนนฉัตรวาริน เขตเทศบาลตำบลปะลุรู อ.สุไหงปาดี เป็นเหตุให้ ด.ต.กิตติ มิ่งสุก ตำรวจชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) ตชด.447 และ จ.ส.ต.กฤษฎา ทองโอ ผบ.หมู่ (จร.) สภ.สุไหงปาดี จว.นราธิวาส เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ โดยมีการสวมชุดนิรภัยวัตถุระเบิด หรือ บอมบ์สูท (BOMB SUIT) ซึ่งเป็นชุดของเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิดที่ปฏิบัติภารกิจใน พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นำมาใช้ทุกครั้งที่มีการแจ้งเหตุคนร้ายลอบวาง วัตถุต้องสงสัย โดยเบื้องต้นเมื่อได้รับแจ้งเรื่องระเบิด กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน จะจัดเจ้าหน้าที่ชุด EOD เข้าทำการเก็บกู้วัตถุระเบิด โดยขั้นตอนแรกใช้หุ่นยนต์เข้าทำการพิสูจน์ทราบและทำลาย ซึ่งหากเกิดข้อขัดข้อง เจ้าหน้าที่ชุด EOD จะเข้าทำการเก็บกู้วัตถุระเบิดโดยสวมชุดบอมบ์สูทในการปฏิบัติงานทุกครั้ง

แต่กรณีเจ้าหน้าที่ชุด EOD เสียชีวิตในการเก็บกู้วัตถุระเบิดทั้งที่สวมชุดบอมบ์สูทนั้น เกิดจากแรงระเบิดที่เกิดขึ้นในระยะประชิด กอร์ปกับคนร้ายอาจใช้ระเบิดที่มีความร้ายแรงและมีปริมาณมาก จึงทำให้เกิดสะเก็ดระเบิดที่มีขนาดใหญ่และมีความเร็วสูงกว่าที่ชุดบอมบ์สูท จะต้านทานได้ จึงเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิตดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีดังกล่าว พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. ได้สั่งการและกำชับเรื่องการจัดหาอุปกรณ์ที่ใช้ในการป้องกันการปฏิบัติ หน้าที่ของข้าราชการตำรวจ และแจกจ่ายให้เพียงพอกับความต้องการ โดยในปัจจุบัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการจัดซื้อชุดบอมบ์สูท รุ่นใหม่ EOD 9 เพิ่มเติมเรียบร้อยแล้วจำนวน 9 ชุด และอยู่ในระหว่างกระบวนการจัดซื้ออีกจำนวน 12 ชุด