ผัวร้องเมียคลอดลูกตายปริศนาคาร.พ.

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 6 ม.ค. นายเกียรติศักดิ์ ไวกสิกรณ์ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90 หมู่ 2 ต.สุขฤทัย อ.ห้วยคต จ.อุทัยธานี เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อร.ต.ท.สุขสันต์ จันทร พนักสอบสวน สภ.ห้วยคต ว่า ตนและนางสวัสดิ์ ไวกสิกรณ์ อายุ 34 ปี ภรรยา อยู่กินกันมานานหลายสิบปี จนมีลูกด้วยกัน 2 คน คนโตเป็นผู้หญิงอายุ 14 ปี และอีกคนหนึ่งนั้นท้อง 9 เดือน กำหนดคลอดวันที่ 14 ม.ค.นี้ ซึ่งภรรยาของตนมีสุขภาพแข็งแรงดีทุกอย่าง ไม่มีโรคประจำตัว ต่อมาเมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 5 ม.ค. ภรรยาบอกว่ามีเลือดไหลเป็นลิ่มมาจากช่องคลอด จึงรีบนำตัวส่งร.พ.ห้วยคต หลังจากนั้นพยาบาลมาบอกตนว่าไม่เป็นอะไร เป็นอาการของคนท้องที่กำลังใกล้จะคลอด โดยภรรยานอนร.พ.ห้วยคต เพื่อนอนดูอาการ

กระทั่งเวลา 02.10 น. ภรรยาบอกให้ไปตามพยาบาลและหมอมาดูอาการ ตนจึงไปตามให้ เมื่อพยาบาลเข้ามาดู และเปลี่ยนผ้า พร้อมบอกตนว่าน้ำไหลออกจากช่องคลอด แต่ปากมดลูกยังไม่เปิด เมื่อตรวจหัวใจเด็กในท้องก็ยังปกติดี ตนพูดคุยกับผู้ตายตลอด จนเวลา 03.10. น. มีอาการปวดท้อง จึงไปเรียกพยาบาลอีก พบว่าภรรยาช็อกหมดสติ นางพยาบาลและหมอช่วยกันปั๊มหัวใจ 2 ครั้ง ตนยืนดูที่หน้าคอมพิวเตอร์ เห็นรูปวิ่งขึ้นลงที่จอคอมพิวเตอร์ในลักษณะยังหายใจ จนเวลา 04.00 น. รูปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์วิ่งเป็นเส้นตรง พยาบาลและหมอเห็นว่าอาการไม่ดีขึ้น จึงรีบส่งต่อไปยังร.พ.อุทัยธานี โดยตนนั่งรถมาด้วย และกำมือผู้ตายตลอดเวลา เมื่อมาถึงร.พ.อุทัยธานี หมอนำตัวเข้าห้องฉุกเฉิน จากนั้นพยาบาลเรียกตนไปพบ บอกว่าภรรยาของตนและลูกในท้องเสียชีวิตแล้ว โดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งไม่เคยเจอที่ไหนมาก่อน จากนั้นร.พ.อุทัยธานีผ่าเอาเด็กที่อยู่ในท้องออกมา พบเป็นเด็กผู้หญิง

นายเกียรติศักดิ์ กล่าวต่อว่า ตนยังงงกับการตายของภรรยา โดยร.พ.อุทัยธานีออกใบมรณบัตรว่าไม่ทราบสาเหตุการตายของภรรยา ให้ตนไปติดต่อสาเหตุการเสียชีวิตที่ร.พ.ห้วยคตเอง ตนเห็นอาการของภรรยาช่วงเวลา 03.10 น.ที่มีอาการหมดสติ และมีการปั๊มหัวใจช่วย ทำไมร.พ.ห้วยคตไม่นำตัวส่งร.พ.อุทัยธานีตอนนั้น มาส่งตอนที่ปั๊มหัวใจไม่ขึ้นแล้ว

ผมติดใจการออกใบมรณบัตรที่บอกว่าไม่ทราบสาเหตุการตายของภรรยา และให้ผมไปติดต่อที่ร.พ.ห้วยคต ซึ่งญาติพี่น้องไปติดต่อแล้ว แต่ทางร.พ.ห้วยคตไม่ให้ข้อมูลแต่อย่างใด ภรรยาของผมมีสุขภาพแข็งแรงดี และพูดเล่นกับตนเองตลอด ก่อนเข้าโรงพยาบาล จนเวลา 02.00 น.ที่หมดสติ จากนั้นไม่ได้พูดกันเลย นายเกียรติศักดิ์ กล่าว