ยิงจนท.รับทำวีซ่าจีน ดับคา ภัตตาคาร

ร.ต.ท.มงคล พรหมโสภา ร้อยเวร สน.สุธิสาร ได้รับแจ้งจากนางนวล ไม่ทราบนามสกุล อายุ 28 ปี ว่า นายหวง หวางบิน สามีชาวจีน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รับทำวีซ่า ประจำสถานทูตจีน ได้หายตัวไปจากบ้าน ตั้งแต่ วันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยก่อนหายตัวไป บอกว่าจะออกไปกินข้าวที่ร้าน ตูอีฉูภัตคาร ซ.20 มิถุนา แขวงและเขตห้วยขวาง จึงเข้าตรวจสอบภายในร้านดังกล่าว ที่เกิดเหตุพบเป็นอาคารพาณิชย์ สูง 4 ชั้น เปิดเป็นร้านอาหารจีน แต่ประตูด้านหน้าร้านปิด ไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงประสานเจ้าของอาคารดังกล่าว เพื่อนำกุญแจมาเปิด เมื่อเข้าไปตรวจสอบบริเวณชั้น 3 พบศพของ นายหวง หวางบิน นอนหงายเสียชีวิต ตรวจสภาพศพ พบบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืน ขนาด 6.25 เข้าที่ศีรษะ

จากการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด พบว่า ช่วงเวลาที่เกิดเหตุ ประมาณ 01.06 น. มีรถยนต์มาจอดที่หน้าร้านดังกล่าว จากนั้น ผู้ตายกับ นายจางหมิง อายุประมาณ 49 ปี เจ้าของร้านอาหารชาวจีน ได้เดินออกมาจากรถด้วยอาการเมาสุรา จากนั้น นายจางหมิง ได้เดินเข้าไปในร้านก่อน และเวลาประมาณ 5-6 นาที ผู้ตายก็เดินตามเข้าไปในร้าน ต่อมาไม่นานมีพนักงานในร้านวิ่งออกมาจากร้านด้วยท่าทีตื่นตระหนก แล้วนายจางหมิง และนางเทียนจึง ภรรยา อายุ 38 ปี กับกุ๊กชาวจีนไม่ทราบชื่อ ได้เดินตามออกมาอย่างเร่งรีบ จนกระทั่งเวลาประมาณ 02.00 น. นายจางหมิง และนางเทียนจึง ก็กลับมาที่ร้าน และนำกระเป๋าเดินทางออกไปด้วย ขณะที่ นายหวางไห่ อายุ 59 ปี ชาวจีน ซึ่งเป็น ลุงของผู้ตาย กล่าวว่า ผู้ตายทำงานเป็นเจ้าหน้าที่แผนกวีซ่า ในสถานทูตจีน ประจำประเทศไทย และแต่งงานกับสาวไทยคือ นางนวล จนมีลูกสาววัย 6 ขวบ และกำลังจะซื้อบ้านซื้อรถ เพื่อลงหลักปักฐานที่ประเทศไทยด้วยกัน ส่วน นายจางหมิง เคยเปิดร้านที่หลังสถานทูตจีนมาก่อน จึงรู้จักกันเพราะไปรับประทานข้าวที่ร้านบ่อยจนสนิทสนม และมักชักชวนกันไปดื่มสุราด้วยกันเป็นประจำ ทั้งนี้ ผู้ตาย เคยเล่าว่า นางจางหมิง ปกติเป็นคนอารมณ์ร้อน และเคยฆ่าคนตายที่ประเทศจีนแล้วหนีมาอยู่เมืองไทยด้วย ทั้งนี้ ตำรวจกำลังสืบสวนพยาน และเร่งติดตาม นางจางหมิง ภรรยา และพนักงานในร้านที่อยู่ในขณะเกิดเหตุมาสอบปากคำ เพื่อหาสาเหตุต่อไป