ข่าว ข่าววันนี้ ตรวจสลากกินแบ่งรัฐบาล พรีเมียร์ลีก ตรวจหวย ข่าวบันเทิง ฟังเพลงออนไลน์ วิเคราะห์บอล ทีวีออนไลน์

Thailand Web Stat

อ่านข่าวย้อนหลัง

เมนูข่าว

การเงิน และการลงทุนทั้งหมด

แสดง 5401 - 5,425 จาก 32,893 ข่าว

บล.กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 19/08/53

กลยุทธ์วันนี้    886? ประเด็นสำคัญวันนี้ ตลาดหุ้นไทยวานนี้ถือว่าดีเกินคาด ปิดเพิ่มขึ้นถึง 1.65% หรือ 14.24 จุด ปิดที่ 880.02 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดในรอบ 27 เดือน ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิทั้ง 3 ตลาดต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 และหนาแน่นในทุกตลาดเช่นกันทิศทาง SET INDEX วันนี้คาดว่าจะเปิดหลุดแนว 880 จุด ด้วยแรงขายทำกำไร และบรรยากาศการลงทุนรอบเอเชียเช้าวันนี้น่าจะได้รับแรงกดดัน NYMEX ที่ปรับฐานลง และ DJIA ปิดเพิ่มขึ้นเพียง 0.09% เท่านั้น แต่เชื่อว่าท้ายที่สุด SET INDEX จะกลับมายืนเหนือ 880 จุด และไต่ระดับขึ้นทดสอบระดับปิดสูงสุดครั้งก่อนที่ 886 จุดภายในวันนี้ ทั้งนี้จับตาการเคลื่อนไหวของราคาหุ้น PTT – PTTEP ราคาหุ้นทั้ง 2 ปิดกระโดดตลอด 3 วันทำการที่ผ่านมา วานนี้ปิดที่ 260 บาทสำหรับ PTT และ PTTEP ที่ 150 บาทซึ่งเป็นแนวรับใหม่ และพร้อมที่จะไต่ระดับขึ้นสู่แนวต้านถัดไป หากประเด็นมาบตาพุดในวันจันทร์ที่ 23 ส.ค. ยืนยันโรงแยกก๊าซหน่วยที่ 6 ไม่เข้าข่ายโครงการอันตราย เชื่อว่าจะเป็นปัจจัยหลักผลักดัน SET INDEX ในรอบนี้อย่างแท้จริง ทั้งนี้ KimEng เสนอให้นักลงทุนติดตามการเคลื่อนไหวค่าเงินบาทระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย เพื่อเป็นอีกปัจจัยที่ใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุน กลยุทธ์การลงทุนวันนี้: KimEng เสนอ “ถือพอร์ตการลงทุนส่วนที่เหลือ”  รวมถึง “ทยอยสะสม  PTT/ LH” การลงทุนทางเลือก: แนะนำให้นักลงทุน “กลับมาเปิดสถานะ Long ใน S50U10 บริเวณ 595 จุดหรือต่ำก่า และถือสถานะข้ามวัน” Stop Loss: S50U10 <  590 จุด ปิด Long และ เปิด Short  Portfolio Hold: CPF/ TASCO / MCOT/ BEC/ BBL/ PTT/PTTEP/ BANPU/ TPC/ MINT/ THAI/ AOT/ MAJOR/ BTS/ TVO/ AP/ CPALL/ HEMRAJ / TTA/ HANA/ THCOM/ PTTCH Accumlative Buy: PTT/ LHTechnical View แนวรับ 870 จุด และ 860-865 จุด ส่วนแนวต้าน 888 และ 925 จุด ทั้งนี้แนะนำ “ซื้อขายตามแนวโน้ม”

2,065 0

บล.กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 19/08/53

กลยุทธ์วันนี้    886? ประเด็นสำคัญวันนี้ ตลาดหุ้นไทยวานนี้ถือว่าดีเกินคาด ปิดเพิ่มขึ้นถึง 1.65% หรือ 14.24 จุด ปิดที่ 880.02 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดในรอบ 27 เดือน ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิทั้ง 3 ตลาดต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 และหนาแน่นในทุกตลาดเช่นกันทิศทาง SET INDEX วันนี้คาดว่าจะเปิดหลุดแนว 880 จุด ด้วยแรงขายทำกำไร และบรรยากาศการลงทุนรอบเอเชียเช้าวันนี้น่าจะได้รับแรงกดดัน NYMEX ที่ปรับฐานลง และ DJIA ปิดเพิ่มขึ้นเพียง 0.09% เท่านั้น แต่เชื่อว่าท้ายที่สุด SET INDEX จะกลับมายืนเหนือ 880 จุด และไต่ระดับขึ้นทดสอบระดับปิดสูงสุดครั้งก่อนที่ 886 จุดภายในวันนี้ ทั้งนี้จับตาการเคลื่อนไหวของราคาหุ้น PTT – PTTEP ราคาหุ้นทั้ง 2 ปิดกระโดดตลอด 3 วันทำการที่ผ่านมา วานนี้ปิดที่ 260 บาทสำหรับ PTT และ PTTEP ที่ 150 บาทซึ่งเป็นแนวรับใหม่ และพร้อมที่จะไต่ระดับขึ้นสู่แนวต้านถัดไป หากประเด็นมาบตาพุดในวันจันทร์ที่ 23 ส.ค. ยืนยันโรงแยกก๊าซหน่วยที่ 6 ไม่เข้าข่ายโครงการอันตราย เชื่อว่าจะเป็นปัจจัยหลักผลักดัน SET INDEX ในรอบนี้อย่างแท้จริง ทั้งนี้ KimEng เสนอให้นักลงทุนติดตามการเคลื่อนไหวค่าเงินบาทระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย เพื่อเป็นอีกปัจจัยที่ใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุน กลยุทธ์การลงทุนวันนี้: KimEng เสนอ “ถือพอร์ตการลงทุนส่วนที่เหลือ”  รวมถึง “ทยอยสะสม  PTT/ LH” การลงทุนทางเลือก: แนะนำให้นักลงทุน “กลับมาเปิดสถานะ Long ใน S50U10 บริเวณ 595 จุดหรือต่ำก่า และถือสถานะข้ามวัน” Stop Loss: S50U10 <  590 จุด ปิด Long และ เปิด Short  Portfolio Hold: CPF/ TASCO / MCOT/ BEC/ BBL/ PTT/PTTEP/ BANPU/ TPC/ MINT/ THAI/ AOT/ MAJOR/ BTS/ TVO/ AP/ CPALL/ HEMRAJ / TTA/ HANA/ THCOM/ PTTCH Accumlative Buy: PTT/ LHTechnical View แนวรับ 870 จุด และ 860-865 จุด ส่วนแนวต้าน 888 และ 925 จุด ทั้งนี้แนะนำ “ซื้อขายตามแนวโน้ม”

2,076 0

บล.บีฟิท : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 19/08/53

Market Attitudeยังมีลุ้นขึ้นต่อแม้อาจมีการขายทำกำไร ตลาดหุ้นไทยยังคงทำได้ดีเหนือความคาดหมายสำหรับวานนี้ ประเด็นที่เคยกังวลเรื่องการเมือง กรณีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2554 ซึ่งมีขึ้นวันที่ 18-20 ส.ค. ว่าเสียงสนับสนุนของพรรคร่วมรัฐบาลอาจมีปัญหาจากกรณีของพรรคภูมิใจไทยและพรรคเพื่อแผ่นดินบางเสียงได้ แต่เท่าที่ติดตามดู คาดว่าการลงมติน่าจะผ่านไปได้ เพราะรัฐบาลก็อาจมีการดูดส.ส.จากฝั่งฝ่ายค้านที่จะเปลี่ยนขั้วเข้ามาช่วยได้บ้างเหมือนกัน สำหรับประเด็นด้านเศรษฐกิจ ช่วงนี้ค่าเงินบาทของไทยเรายังแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเหตุผลที่เคยกล่าวไปก่อนหน้านี้แล้วว่า ตัวเลขเศรษฐกิจของไทยออกมาดี ทิศทางดอกเบี้ยของไทยยังมีแนวโน้มขึ้นอีก ปัญหาการเมืองยังไม่มีความกดดันนัก ทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้ามาลงทุนต่อเนื่อง ก็เลยมีส่วนหนุนตลาดหุ้นไทยขึ้นมาได้ดี ในส่วนของบริษัทในตลาดที่ทยอยให้ข้อมูลกันในช่วงนี้ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นข่าวด้านบวกมากกว่า และในกลุ่มใหญ่ก็มีลุ้นประเด็นสำคัญกันอยู่ อย่างเช่น พลังงานและอุตสาหกรรมก็รอดูเรื่องมาบตาพุดที่จะมีความคืบหน้าในวันที่ 23 ส.ค.นี้ เรื่องประกาศอุตสาหกรรมที่ส่งผลกระทบรุนแรง กลุ่ม ICT ก็ยังลุ้นเรื่อง 3G เหมือนเดิม กลุ่มรับเหมาก็อาจมีลุ้นเรื่องโครงการใหญ่ หลังงบผ่านสภาแล้ว เป็นต้น สำหรับปัจจัยต่างประเทศเท่าทีดูยังไม่มีอะไรนัก หุ้นสหรัฐยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจเป็นหลัก เพื่อประเมินทิศทางเศรษฐกิจ ตลาดหุ้นจึงสะท้อนไปได้ทั้งด้านลบและบวก หุ้นในภูมิภาควันนี้ยังเปลี่ยนแปลงไม่มากนัก ขณะที่แนวโน้มตลาดหุ้นไทยยังมีลุ้นขึ้นต่อได้ โดยทางด้านกลยุทธ์มองเป้าหมายสั้นไว้ที่ 885-888 จุด กลยุทธ์การลงทุน ระยะกลาง : ถือต่อ ... (ยังคงจุดถอยไว้ที่ 860 จุด) ระยะสั้น : ถือต่อ-เก็งกำไรต่อMarket Viewpoint ตลาดหุ้นสหรัฐ  ดาวโจนส์ +9.69 จุด หรือ +0.09% ปิดที่ 10,415.54 จุด ขานรับรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทค้าปลีก รวมถึงทาร์เก็ต คอร์ป และวอล-มาร์ท น้ำมันดิบ  NYMEX -0.35 ดอลลาร์ หรือ -0.46% ปิดที่ 75.42 ดอลลาร์/บาร์เรล รัฐบาลสหรัฐรายงาน สต็อกน้ำมันปิโตรเลียมเพื่อการพาณิชย์ในสหรัฐโดยรวมพุ่งขึ้นแตะสถิติสูงสุดในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ราคาน้ำมันลดช่วงติดลบกลับขึ้นมาได้บ้างก่อนปิดตลาด โดยได้รับแรงหนุนจากการไต่ขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐ สหรัฐ – เฟดชี้เศรษฐกิจสหรัฐไม่ได้เลวร้ายกว่าที่คาดไว้แม้เพิ่มการซื้อพันธบัตร ความน่าเชื่อถือ - มูดี้ส์ ระบุว่าอันดับความน่าเชื่อถือที่ AAA ของสหรัฐ, อังกฤษ, ฝรั่งเศส และเยอรมนี อยู่ในระดับที่เหมาะสม แต่ก็เผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ ที่เพิ่มความเป็นไปได้ที่จะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลง เงินบาท - ธปท. เผยเงินบาทที่แข็งค่าในขณะนี้ไม่น่าเป็นห่วง เพราะยังเป็นไปตามสกุลเงินภูมิภาค ขณะที่ธปท.พร้อมเข้าดูแล SCB - คาดกำไรสุทธิปีนี้ จะดีกว่าปีก่อนที่มี 2.08 หมื่นล้านบาท โดยเป็นผลจากการขยายตัวของสินเชื่อและรายได้ค่าธรรมเนียม AP - คาดกำไรสุทธิและรายได้ในปีนี้โตราว 10-15% จากปีก่อน ขณะที่ยอดขายจะสูงกว่าเป้าหมาย HEMRAJ - คงเป้ารายได้ในปีนี้โต 80% ส่วนกำไรสุทธิโต 50% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 575.24 ล้านบาท และมีรายได้รวม 2.22 พันล้านบาท

1,717 0

สรุปข่าวหนังสือพิมพ์แนวหน้า

ในหลวง-พระราชินีทรงรับ 5ศพฮ.ร่วง ในพระบรมราชานุเคราะห์   ขรก.ทส.ร่ำไห้สูญเสียปลัด เผยเฮลิคอปเตอร์แหลกยับ คาดทัศนวิสัยไม่ดี-ชนเขา ดิ่งกลางป่าลึก-ตายยกลำ ทีมค้นหาของเจ้าหน้าที่รค้นพบซากเฮลิคอปเตอร์ที่ นายศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) พร้อมคณะ โดยสารไปปฏิบัติภารกิจที่ จ.น่าน และขาดการติดต่อไปอย่างไร้ร่องรอยในระหว่างเดินทางแล้ว โดยพบเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวตกอยู่กลางป่าลึก บ้านน้ำแขว่ง ต.เมืองลี้ อ.นาหมื่น จ.น่าน ในสภาพเสียหายทั้งลำ ขณะที่คณะของ นายศักดิ์สิทธิ์ พร้อมนักบินรวม 5 ชีวิต เสียชีวิตทั้งหมด สส.เพื่อไทยสุดทน แฉ'เจ๊ด.'บีบ 'นิคม'โดดซบปชป.   รบ.โชว์เสียงแน่นปึ้ก งบม.3ฉลุย239เสียง โต้แจกสส.คนละ20ล หลังจากพรรคเพื่อไทยได้ติดภาพประจานส.ส.ของพรรคที่จะย้ายไปสังกัดพรรคการเมืองอื่นพร้อมกับดำเนินการขับออกจากพรรคตามข้อบังคับการประชุมพรรค ล่าสุดส.ส.ที่ถูกประจานได้ออกมาแถลงตอบโต้การกระทำของพรรคเพื่อไทย ขณะเดียวกันการอภิปรายงบประมาณวันแรกเป็นไปด้วยความจืดชืด แฉ'นางก.'ไหวตัวเผ่นนอก DSIบุกค้นบ้านหาหลักฐาน    สาวส่งท่อน้ำเลี้ยง'เสธ.แดง' เทือกเลิกพรก.กทม.ที่สุดท้ายโยนตร.จัดการม็อบต้านเขมร เมื่อวันที่ 18 สิงหาคมนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีก่อการร้าย ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการสอบสวนนายจักรชลัท คงสุวรรณ หรือพล คนขับรถ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดงว่า ยังอยู่ในขั้นตอนการหารือกับอัยการ เพื่อพิจารณาออกหมายจับผู้ต้องสงสัยที่นายจักรชลัท ให้การพาดพิงถึง เขมรอ้างUNพร้อมเป็นคนกลาง เจรจายุติข้อพิพาทเขาพระวิหาร   มาร์คย้ำคุยทวิภาคี หาทางแก้ปัญหาได้ เชื่ออาเซียนไม่ยุ่ง ยังคงมีความเคลื่อนไหวของภาคประชาชนเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการทุกวิถีทางในการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ จากกรณีพิพาทปราสาทพระวิหารระหว่างไทย-กัมพูชา เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 18 สิงหาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ และนายวีระ สมความคิด แกนนำเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ พร้อมสมาชิกกว่า 50 คน เข้ายื่นหนังสือถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้เร่งดำเนินการตามข้อเรียกร้องในแถลงการณ์ ฉบับที่ 1 เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม โดยให้ยกเลิกพันธกรณีและข้อตกลงใดๆ กับกัมพูชาที่ทำให้ไทยเสียเปรียบ ให้ผลักดันทหารและชาวกัมพูชาออกจากดินแดนไทยภายใน 24 ชั่วโมง เร่งดำเนินการตามพินัยกรรมของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ อดีตนายกรัฐมนตรีที่จะเอาปราสาทพระวิหารคืนมา รวมทั้งคัดค้านการขึ้นทะเบียนร่วม โดยที่ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องเขตแดนสันปันน้ำ อีกทั้ง ประกาศยกเลิกการลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยการสำรวจและจัดทำเขตแดนทางบก (เอ็มโอยู 43) และทีโออาร์ 46 ทันที  อัยการแลกหมัดป.ป.ช. เอาดีใส่ตัว-ชั่วให้คนอื่น  ยันคดีรถดับเพลิงอ่อน ไม่มีหลักฐานเอี่ยวถึง เตือนฟ้องเองระวังวืด นายวัยวุฒิ หล่อตระกูล รองอัยการสูงสุด (อสส.) แถลงถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เตรียมแต่งตั้งทนายความยื่นฟ้องผู้ต้องหาคดีทุจริตจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงของ กทม. มูลค่า 6,800 ล้านบาทว่า คดีนี้คณะทำงานร่วมระหว่าง ป.ป.ช.และสำนักงานอัยการสูงสุด มีความเห็นแตกต่างกัน โดย ป.ป.ช.มีความเห็นควรฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมด แต่อัยการเห็นว่าควรฟ้องผู้ต้องหาบางส่วน แต่ไม่ควรฟ้องนายโภคิน พลกุล อดีตรมว.มหาดไทย นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมช.พาณิชย์ โดยพิจารณาไปตามพยานหลักฐานที่ปรากฏอย่างนั้น โผล่อีกรายขายซีดีเก่าถูกจับ   ไม่มีค่าปรับ1แสน-ถูกขังแทน1ปี วธ.เล็งแก้กม.-โทษหนักเกินไป เมื่อวันที่ 18สิงหาคม นางอัมพร นิตย์เจริญ อายุ 45ปี และด.ช.อดิศร นันทวณิชย์ อายุ 9 ปี ภรรยาและลูกชายของ นายสมชัย นันทวณิชย์ อายุ 45ปี อาชีพขายของเล่นตามแผงลอย เข้าร้องเรียนกับพล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ว่า นายสมชัย สามี ถูกตำรวจ สน.บางมดจับกุมเมื่อวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา ขณะนำแผ่นซีดีภาพยนต์ของลูกชายที่ซื้อมาจากห้างสรรพสินค้าจำนวน 19 แผ่น พร้อมเสื้อผ้าเก่า ไปวางขายที่เชิงสะพานลอยคนข้ามบางมด แขวงและเขตจอมทอง ท้องที่สน.บางมด โดยไม่รู้ว่าการขายแผ่นซีดีโดยไม่ได้รับอนุญาตผิดกฎหมาย กก.แก้รธน.สรุปแล้ว ใช้'สส.ปาร์ตี้ลิสต์' เลือกตั้งแบบแบ่งเขต เหมือนฉบับปี2540   เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพิจารณาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามข้อเสนอของคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและการศึกษาการแก้ไขรัฐ ธรรมนูญ โดยใช้เวลาประชุมประมาณเวลา 2.30 ชั่วโมง จากนั้นนายเจษฎ์ โทณะวณิก กรรมการฯ แถลงว่า คณะกรรมการฯมีมติให้แก้ไข ประเด็นที่มาของ ส.ส.ตามมาตรา 93-94 ของรัฐธรรมนูญ โดยเห็นว่า ควรมี ส.ส.จำนวน 500 คน แบ่งเป็นส.ส.ระบบแบ่งเขต 375 คน แบบบัญชีรายชื่อ 125 คน หนุ่มกาฬสินธุ์ดับเซ่นหวัด09 รร.อนุบาลปิด5วันหวั่นติดเชื้อ   นพ.พิสิทธิ์ เอื้อวงศ์กูล สาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์โรคไข้หวัดใน จ.กาฬสินธุ์ พบว่า ขณะนี้มีผู้ป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ถึง 56 คน ในจำนวนนี้มีผู้ป่วยโรคไข้หวัด 2009 จำนวน 7 คน และล่าสุดเสียชีวิตแล้ว 1 คน เป็นชายอายุประมาณ 40 ปี ติดเชื้อมาจาก จ.ชัยภูมิ ซึ่งขณะนี้ได้กำชับให้ทุกโรงพยาบาลเพิ่มความเข้มงวดในการดูแลคนไข้ โดยเฉพาะการเตรียมการจ่ายวัคซีนและยาป้องกันให้กับผู้ป่วยที่ต้องสงสัย ซึ่งประชาชนต้องระมัดระวัง เนื่องจากช่วงนี้เป็นหน้าฝน ซึ่งทำให้เกิดกี่เจ็บป่วยได้ง่ายได้ ทั้งนี้ มีรายงานว่า โรงเรียนอนุบาลกาฬสินธุ์ ได้สั่งปิดการเรียนการสอน 5 วัน หลังพบว่ามีนักเรียนป่วยเป็นโรคไข้หวัดเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ทางโรงเรียนจะพ่นยาฆ่าเชื้อ ก่อนเปิดเรียนในวันที่ 23 สิงหาคมนี้  สนพ.ลุยปรับปรุง 'เตาเผาเซรามิก' หวังลดใช้แอลพีจี ช่วยรง.หั่นต้นทุน   นายวีระพล จิรประดิษฐกุล ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) กล่าวว่า ตามที่ สนพ.ได้ดำเนินโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และการใช้หัวเผาไหม้ประสิทธิภาพสูงในเตาเผาเซรามิก ล่าสุดมีโรงงานอุตสาหกรรมทำสัญญาร่วมโครงการเพื่อปรับปรุงเตาเผาแล้ว 150 เตา สามารถลดการใช้ก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี) ได้ปีละ 1.8 ล้านกิโลกรัม โดย สนพ.ตั้งเป้าว่าปี 2554 จะปรับปรุงเตาเผาเซรามิกให้ได้ 600 เตา ลดการใช้แอลพีจีได้ 4 ล้านกิโลกรัมญวนหั่นค่าเงินด่องรอบ3 พาณิชย์ยันไม่กระทบส่งออกไทย   สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า ธนาคารกลางเวียดนามได้ประกาศลดค่าเงินด่องลง 2.1% ซึ่งอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างธนาคารที่ปรับใหม่นี้มีผลในวันที่ 18 สิงหาคม เป็นต้นไป โดยจะอยู่ที่ 18,932 ด่องต่อดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับก่อนหน้านี้ที่อยู่ที่ 18,544 ด่องต่อดอลลาร์สหรัฐ นับเป็นการปรับลดค่าเงินด่องเป็นครั้งที่ 3 นับจากปลายปีที่แล้ว หลังจากทยอยปรับลดค่าเงินไปในเดือนกุมภาพันธ์ 3.4% และเดือนพฤศจิกายน ปีที่ผ่านมา 5.4% ทั้งนี้เพื่อควบคุมการขาดดุลการค้าเอกชนโวยรัฐขยับค่าแรง ดันต้นทุนพรวด-เสี่ยงเจ๊ง   นายทวี ปิยะวัฒนา รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กล่าวว่า การที่รัฐบาลมีนโยบายจะปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการระดับล่าง จะทำให้ภาคเอกชนต้องปรับขึ้นเงินเดือนตามไปด้วย รวมถึงรัฐบาลยังเตรียมปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็นไม่ต่ำกว่าวันละ 250 บาท ที่จะมีผลในเดือนเมษยายน 2554 นั้น ถือเป็นการซ้ำเติมผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมให้มีต้นทุนสูงขึ้น เพราะปัจจุบันมีการใช้แรงงานทั่วประเทศราว 15 ล้านคน และอยู่ในระบบอุตสาหกรรมจำนวนมากราว 70-80% โดยแต่ละปีผู้ประกอบการก็จะมีการปรับค่าแรงปกติทุกปี เมื่อมีนโยบายดังกล่าวก็จะทำให้การปรับเงินเดือนเพิ่มเป็นปีละ 2 ครั้งจีนสนไฮสปีดเทรนไทย จ่อหอบลงทุน2แสนล. เชื่อมโยงเส้นทางการค้า ขอเวลา6เดือนศึกษาร่วม จีนตบเท้าพบคมนาคม พร้อมลงทุนรถไฟความเร็วสูง(ไฮสปีดเทรน) เชื่อมภูมิภาคจากคุนหมิง-ลาว-ไทย-มาเลเซีย ระบุสนใจเส้นทางจากกรุงเทพ-หนองคายและกรุงเทพ-ระยองก่อน วงเงิน 2 แสนล้านบาท เพื่อขนส่งคนและสินค้าจากแหลมฉบัง เตรียมตั้งคณะกรรมการร่วม ศึกษาโครงการและจัดทำกรอบการเจรจาภายใน 6 เดือน ก่อนเสนอสภาลงนามบันทึกความร่วมมือพาณิชย์ชูยุทธศาตร์5ปี ปั้นไทยชาติการค้า   พาณิชย์จัดเวิร์คช็อปถกแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี วาดฝันปั้นไทยเป็นชาติการค้าเทียบชั้นต่างประเทศ ด้วยการสร้างสถียรภาพการค้าภายในประเทศ ลดการพึ่งพิงการส่งออก ลดผลกระทบวิกฤติเศรษฐกิจโลกในอนาคตค่าเงินบาทยังแข็งโป๊ก สอท.นัดถกผลกระทบ   เงินบาทยังคงแข็งค่าต่อเนื่อง ล่าสุดทำสถิติสูงสุดในรอบ 27 เดือน ธปท.รับเงินบาทแข็งค่าเร็วเกินคาด เหตุเงินไหลเข้ามากโดยเฉพาะตลาดพันธบัตรรวมแล้วกว่า 5หมื่นล้าน ด้านสอท.โอดผู้ส่งออกแย่ เตรียมหารือผลกระทบ 23 สิงหาคมนี้ ก่อนชงเรื่องให้ผู้เกี่ยวข้องช่วยแก้ไขโยนภาระให้ผู้ใช้ทางด่วน กทพ.ชงครม.ขอเก็บVAT   ผู้ใช้ทางด่วนอ่วมแน่ กทพ.เตรียมชงครม.ขอเก็บค่า VAT 7% อ้างรับภาระมากว่า 18 ปี คิดเป็นเงินกว่า 1 หมื่นล้านบาทแล้วธปท.แนะแบงก์ ปรับใช้พาสเวิร์ด สกัดแก๊งฉกข้อมูล ดูดเงินบัญชีลูกค้า   ธปท.เตรียมหารือแบงก์ จัดการหาวิธีป้องกันฉกข้อมูลดูดเงินจากบัญชีลูกค้า เล็งนำระบบการใช้พาสเวิร์ดแบบครั้งเดียวทิ้งหรือระบบกุญแจล็อกพาสเวิร์ด มาใช้ในอินเตอร์เน็ตแบงก์กิ้ง สกัดเจาะข้อมูลที่มา หนังสือพิมพ์แนวหน้า                

16 0

สรุปข่าวหนังสือพิมพ์เดลินิวส์

ล้อมคอกรัฐบาลก่อหนี้ นายสมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) แถลงแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจไทยในปี 53 แนวโน้มปี 54 และความท้าทายของการบริหารจัดการเศรษฐกิจมหภาคว่า ทีดีอาร์ไอได้คาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจไทยในปี 53 จะขยายตัวในระดับ 6.4-7.2% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ระหว่าง 3.0-3.5% หากปัญหาการเมืองที่คุกรุ่นและส่อเค้ารุนแรงเกิดขึ้นอีก อาจทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจมีปัญหาได้ และส่งผลให้การลงทุนชะลอตัวในช่วงไตรมาสที่ 3-4 ส่วนภาพรวมเศรษฐกิจในปี 54 จากการประมาณการคาดว่าจะผันผวนสูง เป็นผลมาจากเศรษฐกิจโลกที่มีความเสี่ยงอยู่ เนื่องจากไทยยังพึ่งพิงการส่งออกเป็นหลัก โดยคาดว่าจะมีการขยายตัวที่ 3.5-7.1% มีอัตราเงินเฟ้อที่ระดับ 2.0-3.6%เวียดนามลดค่าเงินด่อง รายงานข่าวจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย แจ้งว่า เมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา เวียดนามประกาศลดค่าเงินด่อง 2% ส่งผลให้ค่าเงินด่องอ่อนลงมาอยู่ที่ 18,932 ด่องต่อดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นการปรับลดค่าเงินครั้งที่ 3 ในรอบ 10 เดือน เป็นผลมาจากเวียดนามขาดดุลการค้าในเดือน ก.ค.ที่ผ่านมาจึงเป็นแรงกดดันต่อฐานดุลบัญชีเดินสะพัดและทำให้ค่าเงินด่องอ่อนค่าลงส่งผลให้การรักษาเสถียรภาพค่าเงินด่องลำบากมากขึ้น ขณะที่ เงินสำรองต่างประเทศมีค่อนข้างจำกัด นอกจากนี้เวียดนามต้องการรักษาความแตกต่าง ระหว่างค่าเงินด่องในตลาดมืดและอัตราแลกเปลี่ยนของทางการไม่ให้ห่างกันมากนัก หลัง จากที่อัตราแลกเปลี่ยนด่องต่อดอลลาร์สหรัฐ ของ 2 ตลาดเริ่มห่างกัน โดยค่าเงินด่องในตลาดมืดเมื่อวันที่ 17 ส.ค. อยู่ที่ 19,280-19,230 ด่องต่อดอลลาร์สหรัฐเร่งเต็มที่ร่วมทุนรถไฟไทย-จีน นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการกระชับความสัมพันธ์เศรษฐกิจไทย-จีน ที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า นายสุเทพได้สั่งการให้กระทรวงคมนาคมเร่งศึกษากรอบความร่วมมือร่วมลงทุนก่อสร้างโครงการพัฒนากิจการรถไฟ ระหว่าประเทศไทยกับจีนให้เสร็จโดยเร็ว ทั้งในเรื่องเส้นทางและเงื่อนไขต่าง ๆ พร้อมกับให้กระทรวงการคลังไปศึกษาวิธีการร่วมลงทุนระหว่างไทยและจีนว่าจะใช้รูปแบบใดพาณิชย์จับมือห้างฉลอง 90 ปี จัดรายการลดแลกแจกแถมสนั่น 12 ห้างฯดึง 7,765 สาขาร่วมรายการ นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้ร่วมมือกับห้างค้าปลีกสมัยใหม่ ห้างค้าส่งและห้างสรรพสินค้า 12 ราย รวม 7,765 สาขาทั่วประเทศจัดมหกรรมสินค้าราคาพิเศษ นำสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพ และสินค้าทั่วไปกว่า 4,000 รายการ มาจัดกิจกรรมลดราคา 10-50% ซื้อ 1 แถม 1 และซื้อ 2 แถม 1 แก่ประชาชน ตั้งแต่วันที่ 20-22 ส.ค.นี้ เพื่อเป็นการฉลองในโอกาสกระทรวงพาณิชย์ครบรอบ 90 ปี หรือ ' 20 สิงหา วันพาณิชย์' ธ.ยูโอบีบุกลูกค้าสถาบัน ดันเอยูเอ็มสิ้นปีนี้โต 54% นายวนา พูลผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ยูโอบี(ไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทจะเน้นจับกลุ่มลูกค้านักลงทุนสถาบัน และรายใหญ่มากขึ้น โดยจะเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในกองทุนส่วนบุคคลทั้งจากลูกค้าเดิมและรายใหญ่ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้ารวม 30 ราย จากปีก่อน 20 ราย เพื่อผลักดันให้บริษัทมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (เอยูเอ็ม) ของกองทุนส่วนบุคคลเติบโต 100% หรือเพิ่มเป็น 10,000 ล้านบาท จากปัจจุบัน 4,289 ล้านบาท และเพิ่มเอยูเอ็ม กองทุนรวมอีก 22,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้บริษัทมีเอยูเอ็มโดยรวมสิ้นปีนี้เป็นตามเป้าหมาย 80,000 ล้านบาท เติบโต 54% จากสิ้นปีก่อนอยู่ที่ 52,000 ล้านบาทเอกชนขวัญผวาการเมืองวุ่น นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า การลงทุนของภาคเอกชนในช่วงที่เหลือของปีนี้จะไม่ขยายตัวเหมือนกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย เนื่องจากบรรยากาศยังไม่เอื้อต่อการลงทุนทั้งในเรื่องของปัญหาการเมือง, มาบตาพุด และการต่อต้านการลงทุนขนาดใหญ่ของกลุ่มประชาชนในหลายพื้นที่ ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะเกิดอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในอนาคต ดังนั้นรัฐบาลต้องเร่งสร้างความชัดเจนนโยบายการลงทุนเพื่อให้นักลงทุนเกิดความมั่นใจในประเทศไทยพท.ยื่นถอดถอนมาร์คปั่นหุ้นไทยคม พ่วง 'กรณ์-ศิริโชค' อัยการจวก 'ป.ป.ช.' อย่าตั้งธงว่าจะฟ้อง 'พท.' ยื่นถอดถอย 'มาร์ค-กรณ์' ปั่นหุ้นไทยคอม 'วอลล์เปเปอร์' โดนด้วย  ขณะที่'ดีเอสไอ' ไม่ฟ้อง 'แม้ว-อ้อ' คดีซุกหุ้นภาคสอง ส่วน 'โสภณ' ไม่ปิดบัง 'ภท.' โหวตงบปี 54 กอดอำนาจรัฐต่อไปอีกเฮือก ขณะที่ 'รัฐมนตรี'เรียงหน้าปัดข่าวเกลี่ยงบ 2 หมื่นล้าน แจก ส.ส. 'ไตรรงค์-กรณ์' อ้างขัด รธน.ทำไม่ได้ 'บุญจง' ถามหาหลักฐานงบ 'คลองหลอด' กระจุกตัว 'ปู่ชัย' ลั่นให้เวลาถกงบ 2 วันเท่านั้น  ฝ่าย 'นิคม' แฉ 20 ส.ส.เล็งย้ายหนี 'เพื่อแม้ว' ซุกปีก 'เนวิน' สิ้นปีนี้ ส่วน 'รองอัยการสูงสุด' วิพากษ์ 'ป.ป.ช.' อย่าเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่นฮ.ชนเขาดับยกลำ สูญเสียครั้งใหญ่ 5 ศพ 'ปลัดทส.' พร้อมคณะ สุดสลดเจอแล้ว! ฮ.ปลัดทส. พุ่งชนเขา บึ้มสนั่น ดับสังเวยยกลำ 5 ศพ หลังหายไปจากจอเรดาร์ ขณะบินไปราชการที่ จ.น่าน เร่งระดมเจ้าหน้าที่ปูพรมค้นหาข้ามวัน  สุดท้ายเจอซากเฮลิคอปเตอร์ชนเขาตกลงที่ 'บ้านน้ำแขว่ง' ต.เมืองลี อ.นาหมื่น ปลัด-ผู้ตรวจฯ-นักบินและช่างเครื่อง ดับสยองคาเครื่อง ส่วนที่ปรึกษาสำนักพระราชวัง กระเด็นออกมาเสียชีวิตด้านนอก ลำเลียงศพออกจากป่าขึ้นเครื่องบิน ซี 130 กลับกรุงเทพฯ ครอบครัวร่ำไห้ลั่นอาลัย ขณะที่ 'ในหลวง-พระราชินี' ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ รับศพไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ 7 วัน 'สุวิทย์' จี้เร่งหาสาเหตุ ด้านผู้เชี่ยวชาญการบิน แฉ ฮ.ไร้เรดาร์ตรวจสภาพอากาศ เชื่อต้นเหตุตกมาจากสภาพอากาศแย่เจอพายุฝนกะทันหัน นักบินตั้งตัวไม่ติดเหยื่อโผล่อีก นำซีดีลูกขายถูกตำรวจจับ เตรียมปัดฝุ่นแก้ กม.ผู้พิพากษา-ผู้ประกอบการ  มีมติเห็นควร หลังเกิดคดี 'เก็บซีดีจากกองขยะขาย' จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์หนาหู 'นิพิฏฐ์' ติงกฎหมายจับซีดีสมัย 'สุรยุทธ์' ลงโทษหนักไปควรแก้ ปัดกระทรวงฯ ไม่รู้เห็นการดำเนินคดีเปรยบทลงโทษระหว่างผู้ประกอบการกับผู้จำหน่ายควรแตกต่างกันโผล่อีกราย ภรรยาลูกจ้างร้านอะไหล่รถ ร้อง ตร.สามีนำซีดีลูกชายขายสะพานลอย ถูกตำรวจบางมดจับศาลปรับ 1 แสน ไม่มีเงินจ่ายติดคุกแทน  ค่าปรับ 1 ปี 'พงศพัศ' โดดยื่นมือช่วยจ่ายค่าปรับแทน 9.5 หมื่น พร้อมมอบเงิน 5 หมื่น  ให้ลูกจ้าง  กทม.ใช้หนี้นอกระบบ ระบุ 'สตช.' เตรียมสัมมนาให้ความรู้ตำรวจเข้าใจเจตนารมณ์ พ.ร.บ.ภาพยนตร์ และวีดิทัศน์ พ.ศ. 2551 เพื่อใช้ดุลพินิจอย่างถูกต้องในการจับกุม พร้อม ปชส.ให้ประชาชนทราบ'ตู่' นัดแฉธาริตอีก โวถึงขั้นเก้าอี้หลุด 'สุเทพ' ประกาศชัด เมืองกรุงพื้นที่สุดท้ายยกเลิก พ.ร.ก.ฯ 'เลขาฯสมช.' ปัดยังไม่รู้ กระแสข่าว 'แก๊งอุ้มข้ามชาติ' จ้อลักพาตัว 'แม้ว' ส่วน 'จตุพร' เดินหน้าลุย กระชับพื้นที่ 'ธาริต' โวลั่นเปิดแผลเที่ยวนี้ ถึงขั้นกระเทือนเก้าอี้อธิบดีดีเอสไอ มั่นใจคนทั่วประเทศอาจช็อก! เผยต้นเดือน ก.ย. กองทัพวัฒนธรรมคนเสื้อแดง เดินสายจัดงานคอนเสิร์ตตีนเขาตะโล เมืองชลบุรีแจก ซีดี 'บันทึกสีแดง ชุด 2' ด้าน 'โฆษกไก่อุ' หารืออัยการ หลังถูก อ.จุฬาฯ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาท-ปฏิบัติหน้าที่มิชอบกรณีแถลงข่าวแผนผังขบวนการล้มเจ้า ส่วนทนาย นปช.ยื่นอุทธรณ์ ขอประกัน 5 แสนนำอีก นอกจากนี้ร้องศาลชั้นต้น ไต่สวนมูลฟ้องคดีก่อการร้าย อ้างไม่ได้รับความเป็นธรรมดีดี&ดี 3 ลุยรั้วธุรกิจบัณฑิตย์ นศ.ขานรับดีเยี่ยมแห่ส่งผลงานชิงชัย เปิดโรดโชว์ 'ดีดีแอนด์ดี 3 ภาพเล่าเรื่อง...ดีดี' ลุยในรั้ว ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ เชิญชวนน้อง ๆ นักศึกษารักษาการถ่ายภาพ ร่วมส่งผลงานเข้าชิงเงินรางวัล 8 แสนบาท น้องนักศึกษา ขอจองรางวัลล่วงหน้า ยืนยันส่งผลงานชุดเฉียบเข้าชิงชัยแน่นอน ส่วนอาจารย์ ชมเป็นโครงการดีดีสมชื่อเปิดโอกาสผู้ชื่นชอบถ่ายภาพแสดงผลงาน ขณะที่ 'ดร.พิสิฐ'เผย ก่อนถึงวันชิงชัย มีอุ่นเครื่องก่อน เปิดอบรมพิเศษถ่ายภาพ 40 คนทั่วประเทศเชื่อได้เคล็ดลับวิชาถ่ายภาพจากเซียนตัวจริงมีสิทธิลุ้นรางวัลหลายเด้ง เผย มีแขกพิเศษมาเซอร์ไพร้ส์ในวันอบรมด้วยตร.จับหนุ่มแสบลวงซื้อรถแล้วหนี ตร.สืบสวน บช.น. รวบหนุ่มแสบอาละวาดเชิดรถยนต์  ประชาชนทั้ง กทม.-ปริมณฑลพลาดท่าเพียบ แฉหาเหยื่อจากตามเว็บไซต์ที่ประกาศขายดาวน์รถยนต์วางแผนเนียบ อ้างเป็นเจ้าของเต็นท์รถอยู่ภูเก็ต โทรฯ ไปตุ๋นให้ออกมาทำสัญญาที่โชว์รูมรถยนต์ ยอมลงทุนแค่จ่ายเงินดาวน์ พอได้รถแล้วเผ่นหายเข้ากลีบเมฆ กว่าเหยื่อจะไหวทัน ตอนไฟแนนซ์มาทวงถามค่าผ่อนรายเดือน เผยเฉพาะพื้นที่ สน.หลักสอง เจอเล่นงานตุ๋นไปถึง 15 คัน ล่าสุดเร่งขยายผลหาเพื่อนร่วมแก๊ง ไทยส่อเลิกใช้แบล็กเบอร์รี่ หวั่นข้อมูลรั่ว 'บีบี' ไทยส่อลูกโละ 'กทช.' ชี้อาจผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 รีบทำหนังสือด่วนถาม 'ไอซีที' ระบุแบล็คเบอร์รี่มีระบบจัดส่งข้อมูลอัตโนมัติจากผู้ใช้ ไปยังผู้ให้บริการในต่างประเทศทำให้ไทยไม่สามารถจัดการข้อมูลได้เมื่อต้องการใช้ข้อมูล หวั่นข้อมูลที่ส่งถึงกันผิด ก.ม. เผย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อินเดีย ซาอุฯ สั่งยกเลิกแล้ว เหตุให้บริการเกินขอบเขตกฎหมายของประเทศ  ก่อให้เกิดความกังวลด้านสังคมและความมั่นคง  ด้าน บ.ผู้ผลิตยัน ข้อมูลองค์กรธุรกิจที่รับส่งผ่าน 'บีบี' มีความปลอดภัยสูง ไม่มีใครเจาะเข้าไปได้ที่มา หนังสือพิมพ์เดลินิวส์                

174 0

สรุปข่าวหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

ธปท.ทุ่มซื้อดอลล์สกัด'ค่าบาทแข็ง' เงินไหลเข้ากดบาท31.60 'กรณ์'จี้แบงก์ชาติดูแล ทีดีอาร์ไอ คาดจีดีพีปีนี้โต 6.4-7.2% ชี้เศรษฐกิจยุโรป-สหรัฐยังเสี่ยง แบงก์ชาติเข้าแทรกแซง 'บาท' อย่างหนัก แต่เอาไม่อยู่ ดันบาทแข็งแตะ 31.60 บาทต่อดอลลาร์ นักค้าเงินชี้เงินไหลเข้ากดดันบาทแข็งต่อเนื่อง 'ธาริษา' มั่นใจบาทแข็งไม่กระทบการเติบโต เหตุเกาะกลุ่มกับภูมิภาค ขณะที่ส่งออกโตช่วยหนุน ชี้เหตุค่าเงินแข็งเร็วจากเงินไหลเข้าตลาดตราสารหนี้กว่า 5 หมื่นล้านบาท แนะผู้ประกอบการฉวยจังหวะซื้อเครื่องจักรปรับปรุงการผลิต เพิ่มขีดแข่งขัน ขณะที่ ทีดีอาร์ไอ คาดจีดีพีปีนี้โต 7.2% ด้านเวียดนามลดค่าเงินด่องอ่อนค่าสุดรอบ 17 ปีกทช.เล็งยื่นจ.ม.พาณิชย์-ตปท. ชี้ร่างฯครอบงำขัดดับเบิลยูทีโอ กทช.ส่งหนังสือถามพาณิชย์-บัวแก้ว ชี้ขาดร่างฯ ครอบงำผิดข้อตกลงการค้า WTO-GATS อ้างการตีความนักกฎหมายมีหลายมิติ ต้องรอบคอบไว้ก่อน ยันร่างฯ ปรับเปลี่ยนได้จนกว่าจะเหมาะสม ยันการตั้งผู้บริหารต่างชาติทำได้ แต่ถ้ามาในลักษณะครอบงำโดนแน่ ล่าสุดเผยรายชื่อโอเปอเรเตอร์หน้าใหม่ขอรับซอง 3จีอีก 5 ราย รวมเป็น 13 รายแล้ว ขณะเดียวกัน เตรียมหารือไอซีทีตรวจสอบการใช้การใช้แบล็คเบอร์รี (บีบี) ที่เก็บไฟล์ข้อมูลไว้ในแคนาดาเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คอมพ์ หรือไม่ท่องเที่ยวแข่งดุหั่นราคาพ่วง'โลว์คอสท์' อุตฯ ท่องเที่ยวกระเตื้อง เอกชนแข่งจัดแคมเปญราคาดึงตลาดสุดแรง หลังการเมืองคลี่คลาย สมาคมโรงแรมร่วมวงดึงสมาชิกหั่นราคา ซื้อ 1 แถม 1 สายการบินแข่งดุรับโลว์คอสท์ใหม่เข้าตลาด แอร์เอเชียโหมแคมเปญถี่ยิบดึงลูกค้า ออกตั๋ว 0 บาท แอร์เอเชียเอ็กซ์ ขายซ้อนแคมเปญตั๋ว 10 บาท  'นกแอร์' จับมือพันธมิตรจัดแพ็คเกจซื้อ 1 แถม 1 ซื้อตั๋วโดยสารแถมห้องพัก โรงแรม-รีสอร์ทแข่งดุแคมเปญราคา 'ชุมพล' มั่นใจตัวเลขนักท่องเที่ยวปีนี้คงเป้า 15 ล้านคน แน่รุมถล่มงบกลาโหม-รัฐทหาร  'กรณ์' มั่นใจโหวตผ่านฉลุย ถกงบวาระ 2-3 วันแรกจืดชืด เพื่อไทยตั้งฉายา 'งบรีดภาษีหาเสียง' รุมถล่มกลาโหมอู้ฟู่ ประชดเป็นรัฐทหาร ส่วนกระทรวงเกษตร ได้เจียดงบแค่เล็กน้อย แถมประกาศ พ.ร.ก.ไม่ยอมเลิก ฉุดความเชื่อมั่นต่ำ ขณะที่ ส.ส.ปชป. 'ชาญชัย อิสระเสนารักษ์' ปูดเองหมกเม็ดรถไฟฟ้าสีน้ำเงินแพงกว่าเดิม 2 พันล้านบาท ด้านนายกฯ ลั่นพาไทยเศรษฐกิจโต 10% ติดอันดับสูงที่สุดของโลก 'กรณ์' เชื่อ พ.ร.บ.งบ 2554 ผ่านได้ไม่มีปัญหา โต้ไม่มั่วเป้าหมายจัดเก็บรายได้ทุนนอกดันหุ้นร้อนแรง ดัชนี880สูงสุดรอบ2ปี  วอลุ่มทะลักกว่า4หมื่นล้านบาท  นักวิเคราะห์ชี้หุ้นทะยาน 14 จุด อานิสงส์ต่างชาติโยกเงินเข้าเอเชีย-ดาวโจนส์ฟื้น ผสมโรงแก้มาบตาพุดออกมาเชิงบวก ตลาดหุ้นคึกคักตามตลาดต่างประเทศ-ดาวโจนส์ขยับ ดันดัชนีพุ่งปิดตลาดที่ระดับ 880 จุด บวก 14 .24 จุด ทะยานสูงสุดในรอบ 2 ปี 3 เดือน วอลุ่มทะลักกว่า 4.1 หมื่นล้านบาท นักวิเคราะห์ระบุหุ้นร้อนแรงรับอานิสงส์ต่างชาติโยกเงินเข้าตลาดเอเชีย ผสมโรงการแก้ไขปัญหามาบตาพุดที่ออกมาในเชิงบวกประเมินหุ้นยังไปต่อแม้อาจมีแรงขายทำกำไรบ้าง'กลุ่มทองมา'รับ3พันล. ตัดขายหุ้นพฤกษา6% 'กลุ่มทองมา' ตัดขายหุ้นพฤกษาให้นักลงทุนในและต่างประเทศ 130 ล้านหุ้น รับเงินเฉียด 3 พันล้านบาท ชี้เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในตลาดหลักทรัพย์ แต่ยังถือหุ้นใหญ่กว่า 58% ปรับเป้ารายได้ปีนี้โตเพิ่มขึ้นกว่า 53% หลังครึ่งปีแรกกวาดยอดขาย 1.2 หมื่นล้านบาทแบงก์แลนด์ฯยกปัญหาการเมืองวุ่น เลื่อนขายหุ้นตปท. แลนด์แอนด์เฮ้าส์แบงก์รับปัญหาการชุมนุมแผนระดมทุนเลื่อนเป็นปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า หลังพันธมิตรต่างชาติไม่มั่นใจ ฟุ้ง 7 เดือนแรกกำไรโตกว่า 228 ล้านบาท มั่นใจทั้งปีกำไรโต 15% พร้อมขยับพอร์ตสินเชื่อเอสเอ็มอีเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 40% ของสินเชื่อรวมฟิทช์ชี้ศก.-การเมืองแย่ ไม่ฉุดประกันชีวิตโตต่อ ฟิทช์ มองเศรษฐกิจตกต่ำบวกการเมืองวุ่นช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ส่งผลกระทบจำกัดต่ออุตสาหกรรมประกันชีวิตไทย ที่ยังมีขนาดเล็กแต่แนวโน้มระยะกลางยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง ส่วนระยะยาวการยกเครื่องกฎระเบียบรองรับการเปิดเสรีจะกดดันผู้เล่นต้องควบรวม สร้างมาตรฐานเงินทุนรับความเสี่ยงมากขึ้นจุฑานาวีคาดยอดทรุดเหลือ 400 ล. เหตุเหลือเรือดำเนินการเพียง 5 ลำ เผยบริษัทยังไม่มีแผนการซื้อ เรือใหม่ เพราะตลาดยังมีความไม่แน่นอน 'จุฑานาวี' คาดรายได้ปีนี้ 300-400 ล้านทรุดตัวลงจากปีก่อน ขณะที่มั่นใจกำไรการดำเนินงานเพิ่มขึ้น หลังปรับกลยุทธ์หันมารับจ้างบริหารเรือเผยไม่มีแผนซื้อเรือใหม่ เหตุแนวโน้มธุรกิจเดินเรือยังซบโกลบอลฯ ปันผลเกิน 4 สต. นายสมชาย คุลีเมฆิน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โกลบอล คอนเน็คชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GC เปิดเผยว่า แนวโน้มกำไรปีนี้เกิน 100 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าปีก่อนซึ่งมีกำไร 96 ล้านบาท หลังครึ่งปีแรกที่ผ่านมามีกำไร 62 ล้านบาท สาเหตุกกำไรเกิน 100 ล้านบาท เพราะการเติบโตของรายได้ปีนี้ จะสูงกว่าเป้าที่ 3,400 ล้านบาท โดยจะทำได้ประมาณ 3,600 ล้านบาท ส่วนปริมาณการขายจะใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 60,000 ตัน คิงเพาเวอร์ผุดโมเดล'บริหารนักแตะ' ตั้งเอเยนซี ส่งให้เลสเตอร์ขายทำกำไรเมื่อดัง 'คิงเพาเวอร์' ปั้นโมเดลธุรกิจใหม่ หลังเทคโอเวอร์เลสเตอร์ ซิตี ของอังกฤษ ตั้งบริษัทเอเยนซี ป้อนนักเตะให้สโมสร ในลักษณะยืมตัว เมื่อนักเตะดังเป็นซูเปอร์สตาร์ค่าตัวแพง สามารถขายทำกำไร เผยมองหานักลงทุนอาเซียนแบ่งถือหุ้น 49%ทุนสิงคโปร์'ซีดีแอล'ขาย5พันล. คอนโดมิลเลนเนียมให้'ลีดอน' ทุนสิงคโปร์ “ซีดีแอล' ขายยกตึกคอนโดในโครงการเดอะมิลเลนเนียม เรสซิเดนซ์ฯ ตึกซี-ดี 302 ยูนิต มูลค่า 5,000 ล้านบาท ให้กลุ่มทุนใหม่ ลีดอน แอสเซ็ทส์  เนเธอร์แลนด์-สิงคโปร์-อเมริกาทำตลาดต่อ'ททท.'ฟื้นตลาดเอเชียกระตุ้นเป้ารายได้ไฮซีซัน ททท.เปิดเกมรุกรับตลาดเอเชียฟื้น ส่งแคมเปญ 'Bangkok welcomes You' กระตุ้นเป้ารายได้ไฮซีซัน หั่นราคาขาย 60 โรงแรม 999 บาท คาดนักท่องเที่ยว 4 เดือนสุดท้ายเพิ่ม 5-10%สยามฟิวเจอร์ควงอีเกียผุด'เมกา'ศูนย์ตกแต่งใหญ่สุดเซาท์อีสเอเชีย สยามฟิวเจอร์เปิดแผนร่วมทุนพันธมิตร 'อีเกีย' ศูนย์ตกแต่งบ้านรายใหญ่ของโลก จากสวีเดน เปิดอีเกียแห่งแรกในไทยที่ 'เมกา บางนา' ลงทุนกว่า 1 หมื่นล้านบาท นำร่องศูนย์แรกในไทยใหญ่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เล็งร่วมทุนศูนย์ใหม่อีก 2 แห่งใน 5 ปีที่มา หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ                

10,093 0

ราคาน้ำมันดิบไลท์ ปิดร่วง 35 เซนต์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไลท์ล่วงหน้าสัญญาส่งมอบเดือนกันยายน ที่ตลาดนิวยอร์ค ปิดตลาดที่ราคา 75.42 ดอลลาร์/บาร์เรล  ลดลง 35 เซนต์ หรือ 0.46%                

32 0

หุ้นสหรัฐปิดบวกได้แรงหุ้นกลุ่มค้าปลีกหนุน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปิดการซื้อขายตลาดหุ้นสหรัฐ ดัชนีแกว่งตัวเบาบางในกรอบแคบ ๆ แทบจะตลอดการซื้อขาย เนื่องจากไม่มีปัจจัยเศรษฐกิจใหม่ ๆ มากระตุ้นตลาด ก่อนที่ในช่วงท้ายของตลาด ดัชนีจะปรับเพิ่มขึ้นได้บ้าง จากผลประกอบการไตรมาส 2 ของทาร์เก็ต คอร์ป บริษัทค้าปลีกชื่อดังที่น่าพอใจ ช่วยให้หุ้นในกลุ่มค้าปลีกบวกเพิ่ม ด้านราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ ลดลง 35 เซนต์ ไปปิดที่ 75.42 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำให้หลังปิดตลาด ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 10,415.54 จุด ปรับขึ้น 9.69 จุด หรือ 0.09% ดัชนีแนสแดค ปิดที่ 2,215.70 จุด ปรับขึ้น 6.26 จุด หรือ 0.28% และดัชนีเอสแอนด์พี ปิดที่ 1,094.16 จุด ปรับขึ้น 1.62 จุด หรือ 0.15%ตลาดหุ้นสำคัญของยุโรป ดัชนี FTSE 100 ตลาดลอนดอน ปิดที่ 5,302.87 จุด ลดลง 47.68 จุด หรือ 0.89% ดัชนี DAX ตลาดแฟรงก์เฟิร์ต ปิดที่ 6,186.31 จุด ลดลง 20.09 จุด หรือ 0.32% และดัชนี CAC 40 ตลาดปารีส ปิดที่ 3,647.93 จุด ลดลง 15.20 จุด หรือ 0.41% ส่วนน้ำมันดิบเบรนต์ ตลาดลอนดอน ปิดที่ 76.47 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ลดลง 46 เซนต์ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ ที่ 1,229.70 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ปรับขึ้น 3.10 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนตลาดลอนดอน ปิดที่ 1,231.60 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ปรับขึ้น 5.25 ดอลลาร์สหรัฐ

22 0

LH Bank เผย 7 เดือนแรกของปี กำไร 330 ล้านบาท

นางศศิธร พงศธร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) หรือ   LH Bank เผยผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งแรกของปี 2553 โดย ณ สิ้นมิถุนายน 2553 ธนาคารมีสินทรัพย์รวม 54,448 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2552  เท่ากับ 9.64 %  เงินให้สินเชื่อรวม 40,881 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2552  เท่ากับ   14.31% และจากการที่ธนาคารมีนโยบายการให้สินเชื่อที่เข้มงวด และมุ่งเน้นให้ความสำคัญต่อคุณภาพของสินทรัพย์และการบริหารสินเชื่อด้อยคุณภาพ  ธนาคารมีสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Gross NPL) อยู่ที่ 1.42% และสินเชื่อด้อยคุณภาพสุทธิ (Net NPL) อยู่ที่ 0.94%   หากรวมสินทรัพย์รอการขายและสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินทรัพย์รวม  อยู่ที่ 1.07% ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดในระบบ  ขณะเดียวกันธนาคารมีนโยบายการกันเงินสำรองหนี้สูญในเกณฑ์ที่สูง โดยได้กันเงินสำรองหนี้สูญต่อสำรองพึงกันตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทย เท่ากับ 138.43% ด้านเงินฝากและเงินกู้ยืม ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2553 อยู่ที่ 43,468 ล้านบาท  เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2552  เท่ากับ 3.40%    และหลังจากมีการเพิ่มทุนโดยขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 1:1 เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ส่งผลให้ทุนจดทะเบียนเพิ่มขึ้นจาก 2,655  ล้านบาท เป็น 5,500  ล้านบาท  ทำให้ธนาคารมีเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง มีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง อยู่ที่ 21.46%   สำหรับผลการดำเนินงาน 7 เดือน ณ สิ้นกรกฎาคม 2553 ธนาคารมีสินทรัพย์รวม 56,715 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2552  เท่ากับ 14.21 %   เงินให้สินเชื่อรวม 43,489 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2552 เท่ากับ 21.60%  สินเชื่อด้อยคุณภาพ (Gross NPL) อยู่ที่ 1.39% และสินเชื่อด้อยคุณภาพสุทธิ (Net NPL) อยู่ที่ 0.92%  หากรวมสินทรัพย์รอการขายและสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินทรัพย์รวม อยู่ที่ 1.06%  และเงินสำรองหนี้สูญต่อสำรองพึงกันตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทย เท่ากับ 130.49% ธนาคารมีกำไรสุทธิก่อนภาษี 7 เดือนแรกของปี 2553 อยู่ที่ 330 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 81.52 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2552   (กรกฎาคม 2552)ธนาคาร คาดการณ์ว่าทิศทางเศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2553 อัตราการขยายตัว ของสินเชื่อประมาณ 25%-30% (สินเชื่อ ณ สิ้นปี 2553 จะอยู่ระหว่าง 45,000 – 46,000 ล้านบาท) กำไรสุทธิของ ปี 2553 คาดว่าจะดีขึ้นจากปีก่อนประมาณ 10% - 15% “ส่วนครึ่งหลังของปี 2553 นี้ธนาคารยังคงมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าตามแผนยุทธศาสตร์ สู่การเป็นธนาคารพาณิชย์เต็มรูปแบบ  และมีแผนที่จะปรับโครงสร้างการให้สินเชื่อ ที่เน้นธุรกิจสินเชื่อธุรกิจรายย่อย หรือ SMEs มากขึ้น เพื่อเป็นการสนับสนุนการขยายกิจการหรือการลงทุนใหม่ ทั้งนี้ธนาคารได้มีการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ โดยได้แบ่งการดูแลตามประเภทของลูกค้า การบริการให้คำปรึกษาทางการเงิน โดยสัดส่วนสินเชื่อสำหรับ SMEs จะเพิ่มเป็น 40% ในขณะที่สินเชื่อเพื่อการเคหะจะปรับเป็น 60%” นางศศิธร กล่าว นอกจากนี้ ธนาคารได้ปรับกลยุทธ์สู่การรวมศูนย์การอนุมัติโดยสำนักงานใหญ่ (Loan Approval Centralization) รวมถึงการพัฒนาเครื่องมือในการอนุมัติสินเชื่อ (Credit Scoring & Rating Model) เพื่อคัดกรอง และควบคุมคุณภาพสินเชื่อที่ได้มาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ และเพื่อความรวดเร็วในการอนุมัติสินเชื่อ รวมถึงเน้นการปรับบทบาทของสาขาสู่การเป็น Relationship Manager (RM) เพื่อเป็นเครือข่ายในการรองรับการขยายสินเชื่อให้ครอบคลุมพื้นที่เป้าหมายมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้คาดว่าสินเชื่อในสิ้นปีนี้ จะเติบโตเฉลี่ยไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 ”   นางศศิธร กล่าว                                                                                                                                                        นางศศิธร กล่าวเสริมว่า  แผนการขยายฐานเงินฝากของธนาคารนั้น จะเน้นกลยุทธ์การใช้สาขาในการบุกเบิกและสร้างฐานลูกค้าใหม่มากยิ่งขึ้น ซึ่งสาขาส่วนใหญ่เน้นทำเลที่ตั้งใกล้แหล่งชุมชน ปัจจุบันธนาคาร มีสาขาทั้งสิ้น 26 สาขา แบ่งเป็น ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล 20 สาขา และในภูมิภาคอีก 6 สาขา โดยภายในสิ้นปีนี้ จะมีสาขาใหม่เพิ่มขึ้นอีก 6 สาขา ได้แก่ สาขาบางรัก, สาขาคลองถม , สาขาคาฟูร์อ่อนนุช , สาขาสะพานควาย และอยู่ระหว่างการพิจารณาเพิ่มเติมอีก 2 ทำเล คือ ประตูน้ำ ,   ศิริราช/พรานนก ธนาคารมีแผนจะขยายสาขาปีละ 10 กว่าสาขา จนกระทั่งครบ 60 สาขา ในปี 2555 นอกจากนี้ ธนาคาร แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) มีแผนที่จะเปิดตัวบัตรเอทีเอ็ม LHB ATM ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ ร่วมกับธนาคารกรุงไทย (ATM Co-Brand) ในเร็ว ๆ นี้ โดยลูกค้าที่เปิดบัญชีออมทรัพย์ หรือบัญชีกระแสรายวัน สามารถขอใช้บริการบัตรเอทีเอ็มที่อำนวยความสะดวกมากยิ่งขึ้น โดยบัตร ATM ดังกล่าวสามารถเบิก/ถอนเงินสดได้จากตู้เอทีเอ็มทั่วประเทศ โดยเบิกถอนเงินสดได้สูงสุดวันละไม่เกิน 150,000 บาท และสามารถใช้ชำระค่าสินค้าและบริการผ่านเครื่องเอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ทั่วประเทศ   รวมทั้งธนาคารเป็นตัวแทนรับชำระค่าบริการของเคาน์เตอร์เซอร์วิส  ในการให้บริการรับชำระค่าสินค้าและค่าบริการต่าง ๆ อาทิ ค่าสาธารณูปโภค   ค่าอินเตอร์เน็ต    ค่าบริการโทรคมนาคมต่างๆ มากกว่า 500 บริการ ที่เคาน์เตอร์ของ LH Bank ทุกสาขาทั่วประเทศ และในโอกาสเดียวกัน ธนาคารได้จัดกิจกรรม LH Bank London Taxi ภายใต้แนวคิด “มั่นใจทุกถนนการเงินกับ LH Bank” เพื่อเป็นการแนะนำผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินของธนาคาร สู่กลุ่มลูกค้าทั่วกรุงเทพฯ โดยกิจกรรมนี้จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม ถึงวันที่ 2 กันยายน 2553 โดยจะมีการนำผลิตภัณฑ์และบริการเกี่ยวกับสินเชื่อเอสเอ็มอี  สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และผลิตภัณฑ์ด้านเงินฝาก ไปร่วมโรดโชว์ในครั้งนี้ด้วย นับเป็นหนึ่งในแผนการรุกตลาดลูกค้าที่ธนาคารมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่อง  

7,294 0

บสก. โชว์ผลงาน 7 เดือนทะลุเป้า

บสก. โชว์ผลงาน 7 เดือนแรกปีนี้ มีผลเรียกเก็บที่เป็นเงินสด 8,174.48 ล้านบาท คิดเป็นกำไร 1,700 ล้านบาท คาดทั้งปีทำผลงานเข้าเป้า 11,963 ล้านบาท เผยเดินหน้าต่อยอดโครงการ พออยู่ พอกิน กับที่ดิน บสก.  จับมือกรมวิชาการเกษตร เปิดศูนย์เรียนรู้เกษตรพอเพียง และตลาดนัดพอเพียง เคียงคู่วิถีไทย ระบุเตรียมจัดงานใหญ่ ฉลองครบรอบ 12 ปี บสก. ภายใต้ชื่องาน “IN MEMORY LOVE SONG CONCERT” ระหว่างวันที่   13 - 14 พฤศจิกายน 2553 ณ ROYAL PARAGON HALL เพื่อหวนรำลึกถึงความสุขและความทรงจำกับ 12 นักร้องดัง พร้อมกับจับรางวัลสำหรับลูกค้าที่ซื้อทรัพย์ บสก. ในช่วงเดือน มกราคม-ตุลาคม 2553 ลุ้นรับห้องชุดพักอาศัย 12 ยูนิต ราคายูนิตละ 12 บาท ในงานนี้ นายสุเมธ มณีวัฒนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์  จำกัด (บสก.) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา (มกราคม - กรกฎาคม 2553) ว่า บสก.   มีรายได้จากการปรับโครงสร้างหนี้และจำหน่ายทรัพย์รวมทั้งสิ้น 8,174.48 ล้านบาท คิดเป็น 117.15% จากเป้าหมาย 7 เดือน ที่จำนวน 6,978 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,700 ล้านบาท คาดว่าทั้งปีจะสามารถทำผลงานได้ตามเป้าหมาย 11,963 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 2,000 ล้านบาท ทั้งนี้ผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจ ถึงแม้จะมีปัจจัยลบทางด้านเศรษฐกิจ และการเมืองในช่วงที่ผ่านมา แต่ บสก.ได้ใช้กลยุทธ์กิจกรรมส่งเสริมการขายทุกรูปแบบเพื่อกระตุ้นยอดขายทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นการร่วมออกบูธในงานมหกรรมอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ รวมถึงการออกบูธของ บสก. เอง ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยมีเป้าหมายการออกบูธจำหน่ายทรัพย์ในปีนี้จำนวน 100 ครั้ง ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ยอดขายทรัพย์เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดย ณ มิถุนายน 2553 มียอดเสนอซื้อทรัพย์จากการออกบูธ 52 ครั้ง รวมทั้งสิ้น 1,517  ล้านบาท  ในส่วนของผลการดำเนินงานโครงการคืนทรัพย์ให้คุณ และโครงการขายทรัพย์แบบผ่อนชำระกับ บสก. ที่ได้ขยายระยะเวลาจนถึงสิ้นปี 2553 เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจที่ชะลอตัวให้แก่ลูกค้าในการผ่อนชำระ โดยนับตั้งแต่เริ่มโครงการคืนทรัพย์ให้คุณ จนถึง ณ มิถุนายน 2553 มีจำนวนลูกค้าเข้าร่วมโครงการ จำนวน  2,112 ราย รวมมูลค่า 3,847 ล้านบาท และโครงการผ่อนชำระกับ บสก.  มีจำนวนลูกค้าเข้าร่วมโครงการ จำนวน 1,387 ราย รวมมูลค่าสินทรัพย์ 414 ล้านบาท ปัจจุบัน ณ กรกฎาคม 2553 บสก. มีสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPL) อยู่ในความดูแลทั้งสิ้น 45,566 ราย คิดเป็นมูลค่า 236,243 ล้านบาท ขณะที่มีทรัพย์สินรอการขาย (NPA) จำนวน 15,370 รายการ คิดเป็นมูลค่า 38,996 ล้านบาท โดยในช่วงที่ผ่านมาได้เพิ่มขนาดสินทรัพย์ ด้วยการรับซื้อรับโอน NPL และ NPA จากสถาบันการเงินรวมมูลค่า 15,792.08 ล้านบาท   สำหรับในช่วงครึ่งปีหลัง 2553 บสก. ได้จัดโครงการต่างๆ เพื่อสนับสนุนยอดขายทรัพย์อย่างต่อเนื่อง อาทิ การต่อยอดหรือขยายโครงการพออยู่พอกินกับที่ดิน บสก. เป็นเฟสที่ 2 โดยร่วมมือกับกรมวิชาการเกษตร เตรียมเปิดศูนย์เรียนรู้เกษตรพอเพียงและตลาดนัดพอเพียงเคียงคู่วิถีไทยที่แปลงสาธิต ถนนรามคำแหงในช่วงเดือน ก.ย. – ธ.ค. 2553 เดือนละครั้ง ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ต้นเดือน ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มยอดจำหน่ายทรัพย์ประเภทที่ดินเปล่าได้มากขึ้น ทั้งนี้ จากการเปิดตัวโครงการปลูกพืชเศรษฐกิจเพื่อผลิตพลังงานทดแทน และโครงการพออยู่ พอกิน กับที่ดิน บสก. ในเฟสที่ 1 เมื่อปี 2551 จนถึง มิถุนายน 2553 มีผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจ โดยมียอดขายที่ดินเปล่า 352 รายการ เนื้อที่รวม 13,832 ไร่ คิดเป็นมูลค่า 765 ล้านบาทกรรมการผู้จัดการใหญ่ บสก. กล่าวอีกว่าเพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 12 ปี บสก. ยังได้เตรียมจัดงาน    “IN MEMORY LOVE SONG CONCERT” คอนเสิร์ตเพลงรักโรแมนติก ระหว่างวันที่ 13 - 14 พฤศจิกายน 2553 ณ ROYAL PARAGON HALL เพื่อคืนกำไรให้กับลูกค้า บสก. ได้ร่วมกันหวนรำลึกถึงความสุขและความทรงจำกับ 12 นักร้องดัง ทั้งจากอดีตและปัจจุบัน โดยจำหน่ายบัตรในราคา 900 – 2,000 บาท นอกจากนี้ เพื่อเป็นการฉลองในโอกาสพิเศษดังกล่าว บสก. ได้มอบโปรโมชั่นพิเศษสุดให้กับลูกค้าที่ซื้อทรัพย์ทั่วประเทศ ลดราคาพิเศษ พร้อมรับสิทธิประโยชน์มากมาย อาทิ รับฟรีบัตรเติมน้ำมัน PTT Cash Card มูลค่า 3,000 บาท ฟรีค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์ทุกรายการ ขณะที่ลูกค้าซื้อทรัพย์ผ่อนชำระกับ บสก. รับอัตราดอกเบี้ยต่ำสุด MLR – 3% ระยะเวลา 10 ปี (เฉพาะทรัพย์ราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท) และสมาชิก กบข. ลดเพิ่มอีก 5% จากราคาอนุมัติขาย  อย่างไรก็ดี สำหรับลูกค้าที่ซื้อทรัพย์ของ บสก. และทำสัญญาซื้อขายแล้ว (ตั้งแต่เดือนมกราคม - ตุลาคม 2553) จะได้รับคูปองชิงโชคห้องชุดพักอาศัย 12 ยูนิต ในราคายูนิตละ 12 บาท และบัตรกำนัลท่องเที่ยวทั่วไทยฟรี จำนวน 12 รางวัล ซึ่งเป็นโปรโมชั่นพิเศษสุดที่ บสก. ได้มอบให้กับลูกค้าในโอกาสฉลองครบรอบ 12 ปี ประกอบด้วย โครงการสุขหทัยเพลส เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ , โครงการสุขเจริญเพลส เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ , โครงการนิรันดร์คอนโด 2 เขตพระโขนง กรุงเทพฯ, โครงการรื่นรมย์คอนโดนิเนียม เขตบางกรวย กรุงเทพฯ , โครงการพีเพิลพาร์คเพลส เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ , โครงการออร์คิดเพลส อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ และโครงการ ซี แซนด์ ซัน อำเภอเมือง จังหวัดระยอง เป็นต้น นายสุเมธ กล่าวอีกว่า ในช่วงที่ผ่านมา บสก. ได้ว่าจ้าง บริษัท ทรีนีตี้ แอ๊ดไวซอรี่ 2001 จำกัด  เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อประเมินฐานะทางการเงินและศักยภาพขององค์กร โดยบริษัทที่ปรึกษามีความเห็นว่า ควรดำรงบทบาทของ บสก. ไว้โดยต่อเนื่อง เพื่อรักษาเสถียรภาพของระบบสถาบันการเงิน โดยภาครัฐสามารถใช้ บสก. เป็นเครื่องมือในการรักษาเสถียรภาพได้ทั้งในยามปกติ และในช่วงที่เกิดวิกฤติ ซึ่งขนาดของสินทรัพย์ด้อยคุณภาพในระบบสถาบันการเงินยังคงมีอยู่ต่อเนื่องตามการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อ และจากการเร่งรัดให้สถาบันการเงินขายสินทรัพย์เร็วขึ้น ตามแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงินระยะที่ 2 ขณะเดียวกันจากการจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่ดีในช่วงปี 2550 – 2551 สามารถ Stabilize อัตราการเพิ่มของ NPL เพียงพอที่จะให้ บสก. ดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ บสก. มีศักยภาพในการดำเนินงาน   มีกำไรและไม่เป็นภาระของภาครัฐ และการดำเนินงานโดยต่อเนื่องของ บสก. ทำให้เกิดการสร้างและพัฒนาบุคลากรที่มีความชำนาญในการบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ  

8,098 0

ค่าบาทเย็นนี้ปิดที่ 31.71-31.73 บาท/ดอลล์

นักค้าเงินจากธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ค่าเงินบาทเย็นนี้ปิดตลาดที่ระดับ 31.71-31.73 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับแข็งค่าสุดของวัน โดยระหว่างวันค่าเงินบาทอ่อนค่าสุดที่ 31.76-31.78 บาท/ดอลลาร์ สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาทในวันพรุ่งนี้คาดการณ์ว่ามีโอกาสเคลื่อนไหวในทิศทางแข็งค่า โดยต้องติดตามว่าค่าเงินบาทจะแข็งค่าหลุดบริเวณ 31.70 บาท/ดอลลาร์ หรือไม่ ซึ่งหากหลุดบริเวณดังกล่าวมีโอกาสที่ค่าเงินบาทจะแข็งค่าสู่ระดับ 31.50 บาท/ดอลลาร์ได้ โดยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวที่ระดับ 31.50-31.90 บาท แนะนำติดตามเม็ดเงินลงทุนต่างประเทศที่ไหลเข้ามาไทยอย่างต่อเนื่อง                

40 0

คาร์ลสเบิร์ก แจ้งงบ Q2/10 กำไรพุ่ง 36%

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  คาร์ลสเบิร์ก ผู้ผลิตเบียร์รายใหญ่สัญชาติเดนมาร์กแจ้งผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2010 โดยมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 36% มาอยู่ที่ 2.63 พันล้านโครเนอร์ (452 ล้านดอลลาร์) จาก 1.9 พันล้านโครเนอร์ในไตรมาสเดียวกันปีก่อน หลังบริษัทดำเนินมาตรการลดตุ้นทุนการผลิต โดยคาร์ลสเบิร์กได้เพิ่มประมาณการผลประกอบการปี 2010 เป็น 40% จาก 20% และคาดการณ์ว่ากำไรจากผลการดำเนินงานจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 10 พันล้านโครเนอร์ จาก 9.39 พันล้านโครเนอร์ 'ในช่วงครึ่งปีแรกกำไรขั้นต้นของบริษัทเพิ่มขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากำไรของบริษัทกำลังเพิ่มขึ้นตามการคาดการณ์กำไรขั้นต้นในระยะกลาง และเราจะทำให้แผนการพัฒนาคุณภาพและเพิ่มกำไรขั้นต้นมีความสมดุลอย่างต่อเนื่องตามเป้าหมายที่จะผลักดันให้ธุรกิจของเราขยายตัวอย่างรวดเร็ว' นายเจอร์เกน บูห์ล รัสมัสเซ็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารของคาร์ลสเบิร์กกล่าว

13 0

TWZ มั่นใจ รายได้เข้าเป้า 4 พันล้าน

TWZ โชว์กำไรไตรมาส 2 ปีนี้ 34.44 ล้านบาท และงวด 6 เดือน กำไร 56.45 ล้านบาท  มั่นใจเป้าหมายรายได้ทะลุ 4 พันล้านบาททำได้แน่ หลังได้ "เทเลวิช" กว่า 600 สาขาทั่วประเทศ เสริมทัพ เผยตลาด OEM เดินหน้า ยืนยันไม่ใช่คู่แข่ง แต่เป็นคู่ค้าที่จะช่วยให้ตลาดเติบโต ยืนยัน 3G เปิดให้บริการบริษัทพร้อมเดินหน้าทันที และมีแอพพลิเคชั่นที่สำคัญ ๆ      รอรองรับไว้แล้ว นายพุทธชาติ รังคสิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ TWZ กล่าว ว่า ผลประกอบการของบริษัทไตรมาส 2 มีกำไรสุทธิ 34.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.97 ล้านบาท หรือคิดเป็น 25.37 % จากไตรมาส เดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้กำไรสุทธิงวด 6 เดือน มีกำไรสุทธิ 56.45 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมครึ่งปีแรกสามารถทำได้แล้ว   1,931.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.66 % เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีที่แล้ว จึงทำให้มั่นใจว่าสิ้นปีจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ "ผล ประกอบการที่เพิ่มขึ้นมาจากการขยายช่องทางการจัดจำหน่าย และการพัฒนาโทรศัพท์อย่างต่อเนื่องเพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ บริโภคได้ ทำให้ผมยังคงเป้าหมายยอดรายได้ปีนี้ไว้ที่ประมาณ 4 พันล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น ประมาณ 12% จากปีก่อน ที่มีรายได้อยู่ที่ 3.6 พันล้านบาท และคาดว่ายอดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือปีนี้อยู่ที่ประมาณ 1.5 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ทำได้ 1.08 ล้านเครื่อง โดยผ่านช่องทางจัดจำหน่ายทั้งค้าส่ง ค้าปลีก โมเดิร์นเทรดและ Chain Store Telecom Shop อาทิ เทเลวิช กว่า 600 สาขาทั่วประเทศ รวมทั้งการรับผลิตมือถือ OEM ที่ มีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นรายได้เสริมที่เพิ่มเข้ามา ซึ่งเราไม่ได้คิดว่าเป็นคู่แข่ง แต่มองเป็นคู่ค้าช่วยกันผลักดันให้ตลาดเติบโต รวมทั้งการรุกตลาดต่างประเทศ" ครึ่งปีหลัง บริษัทมีแผนใช้งบการตลาดกว่า 30 ล้านบาท ในการประชาสัมพันธ์ในจังหวัดที่มียอดขายดี ( Local Marketing) เช่น เชียงใหม่ โคราช นครสวรรค์ หาดใหญ่ เป็นต้น เพื่อตอกย้ำแบรนด์ “TWZ” ให้มากขึ้น โดยมีการเปิดศูนย์บริการเพิ่มเติมรวมถึงขยายตลาดไปยัง ต่างประเทศ อาทิ พม่า ลาว กัมพูชา อินเดีย อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ เพื่อเพิ่มรายได้จากส่วนนี้ให้มากขึ้น ผ่านแบรนด์ TWZ โดยตั้งเป้าว่าแบรนด์ TWZ จะมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 25 % ของตลาดเฮาส์แบรนด์ที่มียอดจำหน่ายประมาณเดือนละ 3–4 แสนเครื่องในปี 2554นอก จากนี้จากการที่บริษัทมีการออกวอแรนท์ให้กับผู้ถือหุ้นเดิมซึ่งหากมีการใช้ สิทธิจากผู้ถือหุ้น บริษัทคาดว่าจะนำเงินทุนที่ได้รับมาใช้ในการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายทั้ง ในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีขึ้นในปี 2554 และ 2555 ต่อไป "บริษัท โชคดีที่มีช้อปเป็นของตัวเอง ทำให้สามารถทราบความต้องการของลูกค้าว่าต้องการอะไร จึงผลิตสินค้าออกมาเพื่อตอบสนองได้อย่างถูกต้อง อนาคตหากเปิดให้บริการ 3G เรา ก็มีเทคโนโลยีที่มีความพร้อม และมีแอพพลิเคชั่นที่สำคัญ ๆ ไว้รองรับแล้ว ซึ่งผมไม่ห่วงเรื่องการผลิตสินค้าออกมาเพื่อรองรับ แต่เป็นห่วงแค่ 3G จะเกิดหรือไม่เกิด เพราะพูดกันมานานแล้ว ถ้าเปิดให้บริการเมื่อไหร่เราก็พร้อมทันที" คุณพุทธชาติ กล่าวเพิ่มเติม ทั้ง นี้ในครึ่งปีหลังนี้ นอกจากการจัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือที่คาดว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่วาง ไว้แล้ว บริษัทคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ในส่วนของโครงการอสังหาริมทรัพย์ได้  ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการของบริษัทเติบโตดีขึ้นอย่างต่อเนื่องต่อไป

71 0

ทรูมูฟ จับมือ กสิกรไทย ออก K-Mobile Banking PLUS

นายศีลวัต สันติวิสัฎฐ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย พร้อมด้วย นายสุภกิจ วรรธนะดิษฐ์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการพาณิชย์ บริษัท ทรู มูฟ จำกัด และนายไพบูลย์ ผู้พัฒน์ ผู้อำนวยการ ด้าน Enterprise & Wholesales Customer Solution บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น ร่วมเปิดโครงการมอบสิทธิพิเศษให้ลูกค้าทรูมูฟประเภทบุคคลที่ใช้บริการธนาคารทางโทรศัพท์มือถือ K-Mobile Banking PLUS สามารถสอบถามยอดเงิน โอนเงิน จ่ายบิล และเติมเงินโทรศัพท์มือถือผ่านเครือข่าย 3G* / EDGE / GPRS ของทรูมูฟฟรี โดยไม่ต้องเสียค่าบริการเชื่อมต่อข้อมูล ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ธันวาคมนี้ เท่านั้น *บริการ 3G เป็นส่วนหนึ่งในการปรับปรุงและพัฒนาโครงข่ายในบางพื้นที่ เพื่อให้บริการของทรูมูฟดีขึ้น และสามารถใช้สัญญาณที่ความเร็วสูงสุด 7.2 Mbps (บนมือถือหรืออุปกรณ์สื่อสารที่รองรับคลื่นความถี่ 850 เมกะเฮิร์ตซ์)

3,810 0

THAI ยื่นไฟลิ่งเสนอขายหุ้น PO

นายกวีพันธ์ เรืองผกา รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการเงินและการบัญชี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)(THAI) เปิดเผยว่า ตามที่ ที่ประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)( บริษัทฯ ) ประจำปี 2553  ประชุมเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2553 ได้มีมติอนุมัติให้ออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 1,000,000,000 หุ้น ต่อประชาชนนั้น บริษัทฯ ขอแจ้งความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าวว่า บริษัทฯ ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อประชาชน และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ และร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ( สำนักงาน ก.ล.ต.) แล้วในวันที่ 17 สิงหาคม 2553    การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ในครั้งนี้ เป็นการเสนอขายในลักษณะของการเสนอขายต่อประชาชนทั่วไป (Public Offering) โดยมิได้เป็นการเสนอขายต่อผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ตามสัดส่วนการถือหุ้น Rights Offering) ในราคาเสนอขายสุดท้ายต่อหุ้น ซึ่งจะอ้างอิงกับราคาหุ้นของบริษัทฯ ที่ทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และกำหนดราคาเสนอขายดังกล่าวโดยการใช้วิธีการทำ Bookbuilding  ซึ่งเป็นการ สอบถามปริมาณความต้องการซื้อหุ้นของผู้ลงทุนประเภทสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศในแต่ละระดับราคา โดยบริษัทฯ จะทำการแจ้งกำหนดการที่เกี่ยวข้องกับการเสนอขายหุ้นและกำหนดราคาเสนอขายให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง บริษัทฯ คาดว่าการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไป (Public Offering)ในครั้งนี้ รวมถึง การเสนอขายให้แก่กระทรวงการคลังซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทฯ การเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ รายอื่นๆ (ยกเว้นกระทรวงการคลัง) และการเสนอขายให้แก่ผู้จองซื้อรายย่อย มีรายละเอียดเบื้องต้นสรุปได้ดังต่อไปนี้ (ก)        บริษัทฯ จะจัดสรรและเสนอขายหุ้นให้แก่กระทรวงการคลัง ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทฯ1 ถือหุ้นในสัดส่วนประมาณร้อยละ 51.03 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ในจำนวนที่ทำให้กระทรวงการคลังยังคงสัดส่วนการถือหุ้นในสัดส่วนประมาณร้อยละ 51.03 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ ที่ราคาเสนอขายสุดท้ายต่อหุ้น (ข)        เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนส่วนหนึ่งให้แก่ประชาชนทั่วไปเฉพาะกลุ่ม ซึ่งได้แก่บุคคลโดยเฉพาะเจาะจงซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ (ยกเว้นกระทรวงการคลัง) ที่มีชื่อปรากฏอยู่ในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 30 สิงหาคม 2553ในราคาเสนอขายสุดท้ายต่อหุ้น โดยบริษัทฯ จะได้ประกาศอัตราส่วนหุ้นสามัญเดิมต่อหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ ให้ผู้ถือหุ้นทราบอีกครั้งในวันเดียวกับวันที่บริษัทฯ กำหนดและประกาศราคาเสนอขายสุดท้ายต่อหุ้น ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ (ยกเว้นกระทรวงการคลัง) สามารถจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนเกินกว่าอัตราส่วนหุ้นสามัญเดิมต่อหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ของตนได้ (ค)        เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนส่วนหนึ่งให้แก่ประชาชนทั่วไป ซึ่งเป็นผู้จองซื้อรายย่อยบุคคลธรรมดาสัญชาติไทยและมีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทย หรือ นิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศไทยและมิใช่ผู้ลงทุนสถาบัน  ในราคาเสนอขายสุดท้ายต่อหุ้น ซึ่งเป็นราคาเดียวกับราคาที่เสนอขายให้แก่กระทรวงการคลังและผู้ถือหุ้นเดิมรายอื่นของบริษัทฯ ทั้งนี้ ในกรณีที่มีหุ้นที่เหลือจากการเสนอขายในข้อ (ข) และ (ค) บริษัทฯ จะพิจารณาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าวให้แก่นักลงทุนรายอื่นๆในราคาเสนอขายสุดท้ายต่อหุ้น ซึ่งเป็นราคาเดียวกันกับราคาที่เสนอขายให้แก่บุคคลตาม (ก) (ข) และ (ค) อย่างไรก็ตาม ผู้ลงทุนควรศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จากร่างหนังสือชี้ชวนของบริษัทฯ ซึ่งบริษัทฯ ได้ยื่นไว้ต่อสำนักงาน ก.ล.ต.

50 0

ศรีอยุธยาประกันภัยออกแคมเปญใหม่รับผิดชอบ 10 ล้าน

รายงานข่าวจาก บริษัท ศรีอยุธยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) แจ้งว่า ได้เปิดตัวกรมธรรม์แบบพิเศษสำหรับรถยนต์ส่วนบุคคลตัวใหม่ AYUD AUTO 3 PLUS โดยให้ความคุ้มครองแบบประเภท 3 มีเงื่อนไขให้ความคุ้มครองรถยนต์คันที่เอาประกันภัยซึ่งได้รับความเสียหายจากการชน ยานพาหนะทางบกไม่ว่าจะเป็นฝ่ายถูกหรือฝ่ายผิดก็ตามรับผิดชอบสูงสุด 10 ล้านบาท        นายศักดิ์รพี สังขพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกิจการสาขาและตัวแทน บริษัท ศรีอยุธยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “โดยปกติ การประกันรถยนต์แบบให้ความคุ้มครองประเภทที่ 3จะมีความคุ้มครองเฉพาะอุบัติเหตุ แต่ไม่มีการคุ้มครองเมื่อถูกชน ทางศรีอยุธยาประกันภัยเล็งเห็นช่องว่างในตลาดนี้ จึงได้พัฒนากรมธรรม์ AUTO 3 PLUS  ขึ้นมาเพื่อช่วยลดภาระความเสี่ยงของผู้ขับขี่รถยนต์ให้มีความอุ่นใจมากขึ้น เพราะมีความคุ้มครองโดยไม่คำนึงว่าใครจะเป็นฝ่ายผิดหรือถูกและในกรณีเกิดอุบัติเหตุที่ต้องมีการซ่อมก็จะซ่อมให้ทั้งรถยนต์ที่มีประกันและรถคู่กรณี นอกเหนือจากการให้ความคุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคล ค่ารักษาพยาบาล และประกันตัวในคดีอาญาแล้ว AUTO 3 PLUS  ยังให้ความคุ้มครองโดยรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอกสูงสุดรวมกันไม่เกิน 10,000,000 บาท และคุ้มครองทรัพย์สินบุคคลภายนอกถึง 2,000,000 บาทอีกด้วย” กรมธรรม์นี้พัฒนาขึ้นมาให้กับตัวแทน และนายหน้าประกันภัยขายโดยเฉพาะ มี 3แบบให้เลือกขึ้นอยู่กับประเภทรถยนต์ทุนประกันภัย 100,000 บาท เบี้ยที่รวมอากรและภาษีแล้วเสร็จ 6,500.25 บาท และยังมีส่วนลดสำหรับผู้ขับขี่ที่มีประวัติดีในปีต่ออายุอีกด้วย

886 0

BAY ออกโปรโมชั่นพิเศษ “KRUNGSRI Tax Saving”

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดตัว โปรโมชั่นพิเศษ “ KRUNGSRI Tax Saving ”   เมื่อลงทุนในกองทุน LTF หรือ RMF ของ บลจ.อยุธยา รับ 4 สิทธิ์สุดคุ้ม ได้แก่ สิทธิ์ลดหย่อนภาษี สูงสุด 1,000,000 บาท สิทธิ์รับหน่วยลงทุนกองทุนเปิดอยุธยาตราสารเงินพลัส  (AYFCASHPLS) จาก บลจ.อยุธยา มูลค่าสูงสุด 10,000 บาท พร้อมสิทธิ์รับบัตรกำนัลเซ็นทรัล หรือ เทสโก้ โลตัส มูลค่าสูงสุด 2,500 บาท และสิทธิ์รับคะแนนสะสมจากบัตรเครดิตในเครือธนาคารกรุงศรีอยุธยาที่ร่วมรายการ เมื่อชำระค่าซื้อหน่วยลงทุน ทุก ๆ 100 บาท รับคะแนนสะสม 1 คะแนน ตั้งแต่วันนี้ – 30 ธันวาคม 2553 สอบถามรายละเอียดได้ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ  KRUNGSRI Call Center 1572

762 0

ราคาน้ำมันดิบสิงคโปร์ครึ่งวันเช้าเพิ่มขึ้น 10 เซนต์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ราคาน้ำมันดิบไลท์สัญญาส่งมอบเดือนกันยายนที่สิงคโปร์ครึ่งวันเช้าเพิ่มขึ้น 10 เซนต์ มาอยู่ที่ 75.34 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันเตาเพิ่มขึ้น 0.7 เซนต์ มาอยู่ที่ 1.996 ดอลลาร์/แกลลอน ราคาน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 0.97 เซนต์ มาอยู่ที่ 1.934 ดอลลาร์/แกลลอน และราคาก๊าซธรรมชาติลดลง 0.2 เซนต์ มาอยู่ที่ 4.23 ดอลลาร์/1 พันลูกบาศก์ฟุต ปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากแรงซื้อเก็งกำไร หลังราคาน้ำมันลดลงมาอยู่ระดับต่ำกว่า 81 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่มีสัญญาณว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกชะลอลง ซึ่งนั่นอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน

28 0

ดีเดย์! เก็บค่าบริการรถไฟแอร์พอร์ตลิ้งค์ 23 ส.ค.นี้

นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่ารถไฟแอร์พอร์ตลิ้งค์พร้อมเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ในวันที่ 23 ส.ค.นี้ โดยบริการรถทั้ง 2 ระบบ คือ ซิตี้ไลน์ วิ่งจอดทุกสถานีตั้งแต่สถานีพญาไท-สุวรรณภูมิ คิดค่าโดยสารช่วงแรก  15  บาทตลอดสาย และรถด่วนเอ็กซเพรสไลน์ วิ่งจากมักกะสันถึงสุวรรณภูมิ ไม่จอดสถานีใดๆคิดค่าโดยสารแบบขาไปและขากลับราคารวม  100  บาท  ซึ่งทั้ง 2 ระบบจะให้บริการเต็มเวลาตั้งแต่เวลา 06.00-24.00 น. โดยมีขบวนรถให้บริการแก่ผู้โดยสารทุก 15 นาที ในช่วงแรก รฟท.ยังไม่มีการเปิดระบบเช็คอินกระเป๋าสัมภาระที่สถานีมักกะสัน  เนื่องจากอยู่ระหว่างติดตั้งและทดสอบระบบให้มีความสมบูรณ์  โดยจุดเช็คอินที่มักกะสันจะให้บริการภายในปีนี้ อนึ่ง โครงการรถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หรือ แอร์พอร์ตลิงค์ สร้างเสร็จและมีการส่งมอบงานในปี 2552  แต่มีปัญหาเรื่องการบริหารจัดการเดินรถ โดย ร.ฟ.ท.ได้แก้ปัญหาที่ถูกสหภาพฯ ร.ฟ.ท.คัดค้านการจัดตั้งบริษัทลูก โดยว่าจ้างบริษัท Deutsche Bahn International (DBI) ซึ่งเป็นบริษัทเดินรถไฟของประเทศเยอรมันเข้ามาฝึกบุคลากร เป็นเวลา 9 เดือนแล้ว และว่าจ้างการรถไฟแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี หรือ Deutsche Bahn AG (DB) ที่เป็นบริษัทแม่ของ DBI เข้ามาเป็นผู้บริหารการเดินรถ และส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น การซ่อมบำรุงระบบความปลอดภัย ในช่วง 3 ปีแรก อย่างไรก็ดี ทางรฟท.ได้ทดสอบเปิดให้บริการครั้งที่ 1 วันที่  5 ธันวาคม พ.ศ. 2552 ในเส้นทาง มักกะสัน - สุวรรณภูมิ และวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2553 ได้เปิดทดสอบรอบที่ 2เส้นทาง พญาไท - สุวรรณภูมิ) ก่อนจะเปิดบริการเต็มรูปแบบ ในวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2553                

34 0

บลจ.วรรณ แจ้งจ่ายเงินปันผลกองอสังหาฯ 3 กองทุน

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด ประกาศจ่ายเงินปันผลกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บางกอก ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.185 บาท กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์มิลเลียนแนร์ ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.47 บาท และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.42 บาท นายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด (บลจ.วรรณ) กล่าวว่า บลจ.วรรณ ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บางกอก (BKKCP) กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์มิลเลียนแนร์ (MIPF) และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค (PFFUND) ได้มีมติเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2553 ให้จ่ายเงินปันผลกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บางกอก ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.185 บาท จากผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 เมษายน ถึง 30 มิถุนายน 2553 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์มิลเลียนแนร์ ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.47 บาท จากผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 มกราคม ถึง 30 มิถุนายน 2553 และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.42 บาท จากผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 มกราคม ถึง 30 มิถุนายน 2553 โดยกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุนของทั้งสามกองทุน เพื่อสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่ 31 สิงหาคม 2553 และทั้งสามกองทุนมีกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 16 กันยายน 2553 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บางกอก เป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ประเภทกองทุนปิดและไม่กำหนดอายุโครงการ มีมูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท ผู้ถือหน่วยลงทุนจะได้รับเงินปันผลไม่เกินปีละ 4 ครั้ง โดยกองทุนฯ ได้เข้าลงทุนในห้องชุดสำนักงานและห้องชุดพาณิชยกรรมในอาคารชาญอิสสระทาวเวอร์ และอาคารชาญอิสสระทาวเวอร์ 2 จำนวนพื้นที่รวม 30,008.16 ตารางเมตร โดยมีบริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ โดย ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2553 มีอัตราการเช่าพื้นที่ของกองทุนโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 83.57% และ ณ วันที่ 30มิถุนายน 2553 มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิต่อหน่วยลงทุนเท่ากับ 12.0644 บาท กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์มิลเลียนแนร์ เป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ประเภทกองทุนปิดและไม่กำหนดอายุโครงการ มีมูลค่าโครงการ 1,900 ล้านบาท กองทุนฯ มีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนไม่เกินปีละ 2 ครั้ง โดยกองทุนฯ ได้เข้าลงทุนในอาคารสำนักงาน  มาลีนนท์ ทาวเวอร์ สูง 36 ชั้น และอาคาร Production House สูง 12 ชั้น ซึ่งตั้งอยู่บนถนนพระราม 4 โดยมีบริษัท มาลีนนท์ ทาวเวอร์ จำกัด และ บริษัท โจนส์  แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ โดย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2553 มีอัตราการเช่าอยู่ที่ประมาณ 84.22% และ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2553 มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิต่อหน่วยลงทุนเท่ากับ 12.3806 บาท กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค เป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ประเภทกองทุนปิดและไม่กำหนดอายุโครงการ มีมูลค่าโครงการ 520 ล้านบาท กองทุนฯ มีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนไม่เกินปีละ 2 ครั้ง โดยกองทุนฯ ได้เข้าลงทุนในที่ดินและบ้านพักอาศัยประเภทบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จจากบริษัท พร็อพเพอร& 63246;ตี้ เพอร& 63246;เฟค จำกัด (มหาชน) โดยลงทุนในโครงการเพอร& 63246;เฟค มาสเตอร& 63246; พีซ เอกมัย - รามอินทรา จำนวน 17 หลัง และโครงการเพอร& 63246;เฟค เพลส รามคําแหง – สุวรรณภูมิ จำนวน 47 หลัง รวมทั้งหมดจำนวน 64 หลัง และบริษัท พร็อพเพอร& 63246;ตี้ เพอร& 63246;เฟค จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์จะรับประกันรายได้จากค่าเช่าและค่าบริการให้แก่กองทุนรวมขั้นต่ำปีละ 55 ล้านบาท (ก่อนหักค่าใช้จ่ายของกองทุนรวม) และค้ำประกันการรับประกันรายได้โดยธนาคาร นครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) เป็นเวลาประมาณ 5 ปี โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2553 มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิต่อหน่วยลงทุนเท่ากับ 10.5112 บาท นายมนรัฐ กล่าวต่อไปว่า ทั้งสามกองทุนนี้ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายใต้หมวดกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ โดยใช้ชื่อย่อ BKKCP, MIPF และ PFFUND นอกจากนี้ หากผู้ลงทุนท่านใดสนใจในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่มีสภาพคล่อง บลจ.วรรณ ขอแนะนำอีกหนึ่งทางเลือก โดยลงทุนผ่านกองทุนเปิด วรรณ พร็อพเพอร์ตี้ พลัส ฟันด์ (ONE-PROP) ซึ่งเป็นกองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กองทุนเปิด ONE-PROP จะเปิดขายอีกครั้งในวันที่ 20 ส.ค.นี้ โดยกองทุนจะสามารถรับคำสั่งซื้อได้จนกระทั่งเต็มมูลค่าโครงการที่ 1,000 ล้านบาท หรือ 100 ล้านหน่วย ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บลจ.วรรณ หรือผู้สนับสนุนการขายหน่วยลงทุนที่ได้รับการแต่งตั้งจากบริษัทฯ

3,026 0

CIMBT ตั้ง "หม่อมหลวง ณัฎฐ์ชัญญา" คุมTransaction Banking

รายงานข่าวจาก ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) (CIMBT) ได้ประกาศแต่งตั้ง หม่อมหลวงณัฏฐ์ชัญญา ทวีวงศ์ ดำรงตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ เพื่อดูแลงานในด้านสายงาน Transaction Banking โดยมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หม่อมหลวงณัฏฐ์ชัญญา ทวีวงศ์ อายุ 42 ปี สำเร็จการศึกษาปริญญาตรี ด้าน International Finance/Banking จากมหาวิทยาลัย Oregon State University ประเทศสหรัฐอเมริกา และปริญญาโท ด้าน International Business Management & Marketing จากมหาวิทยาลัย Oregon State University ประเทศสหรัฐอเมริกา เช่นเดียวกัน โดยก่อนหน้านี้ได้ดำรงตำแหน่ง Director – Regional Sales, Cash Management Corporate, ธนาคารดอยช์แบงก์ เอจี สาขาสิงคโปร์ ก่อนที่จะมาดำรงตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงาน Transaction Banking ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) นอกจากนี้ ยังเคยดำรงตำแหน่งสำคัญที่ธนาคารชั้นนำ ได้แก่ ธนาคารดอยซ์แบงก์ สาขากรุงเทพฯ ธนาคารชูมิโตโม มิตซุย แบงกิ้ง คอร์ปอเรชั่น และธนาคารเอชเอสบีซี ประเทศไทย ตามลำดับ         

3,432 0

บล.กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 17/08/53

กลยุทธ์วันนี้    Sideways ประเด็นสำคัญวันนี้ SET INDEX ไทยวันนี้ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แนวรับ 860 จุดยังทำงานได้อย่างแข็งแกร่ง โดยหุ้น PTT เพิ่มขึ้นถึง 2% หลัง NYMEX ฟื้นตัวระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย ทำให้ SET INDEX ปรับฐานลงเพียงเล็กน้อย ขณะที่เม็ดเงินทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 3 ตลาดพร้อมกันอีกครั้ง ทิศทาง SET INDEX วันนี้คาดเคลื่อนไหวในกรอบแคบอีกวัน โดย 860 จุดน่าจะเป็นแนวรับที่แข็งแกร่ง แม้ว่าระหว่างชั่วโมงการซื้อขายจะหลุดแนวรับดังกล่าวไปบ้างก็ตาม แต่เชื่อว่าจะมีแรงเก็งกำไรช่วงสั้นเข้ามาเป็นระยะๆ แต่จะเป็นไปอย่างจำกัด เพราะเชื่อว่านักลงทุนส่วนใหญ่จะชะลอการลงทุน เพื่อรอดูตัวเลขเศรษฐกิจหลายรายการของสหรัฐฯ ในคืนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลผลิตภาคอุตฯ เดือนก.ค. น่าจะเป็นตัวชี้นำกิจกรรมภาคเอกชนได้ค่อนข้างดี และภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯ ดังนั้นลักษณะการลงทุนจึงเป็นการเลือกลงทุนรายหลักทรัพย์ (Selective Buy) ต่อเนื่อง โดยเฉพาะหุ้นที่คาดว่าผลการดำเนินงานใน 3Q – 4Q 2553 ยังเติบโต qoq ต่อเนื่อง กลยุทธ์การลงทุนวันนี้: KimEng เสนอ “ถือพอร์ตการลงทุนส่วนที่เหลือ”  รวมถึง “ทยอยสะสม  AOT” และ “ซื้อเก็งกำไร” THCOM การลงทุนทางเลือก: แนะนำให้นักลงทุน “ถือสถานะ Long ใน S50U10 ข้ามวัน” Stop Loss: S50U10 <  575 จุด ปิด Long และ เปิด Short  Portfolio Hold: CPF/ TASCO / MCOT/ BEC/ BBL/ PTT/PTTEP/ BANPU/ TPC/ MINT/ THAI/ AOT/ MAJOR/ BTS/ TVO/ AP/ CPALL/ HEMRAJ / TTA/ HANAAccumlative Buy: AOT Speculative Buy: THCOM Technical View     แนวรับ 860 จุด, 845-850 จุด, 830 จุด และ 820-822 จุด ส่วนแนวต้าน 865-870 จุด และ 886-888 จุด ทั้งนี้แนะนำ “ทยอยขายเมื่อราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้น”

1,716 0

ศาลฯ สั่งเพิกถอนคดีล้มละลาย SAFARI แล้ว

นางอาภา คิ้วคชา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซาฟารีเวิลด์ จำกัด (มหาชน) (SAFARI) เปิดเผยว่า ตามที่ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตได้รายงานไว้ในการสอบทานงบการเงินสำหรับไตรมาสที่ 1สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2553 ว่าบริษัทฯ ได้ถูกธนาคารผู้เป็นเจ้าหนี้ฟ้องร้องในคดีแพ่งและในคดีล้มละลายนั้น บริษัทฯ ขอชี้แจงว่าเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2553 บริษัทฯได้กู้เงินจากธนาคารในประเทศแห่งหนึ่งจำนวน 1,050 ล้านบาท และได้นำไปชำระหนี้ให้แก่ธนาคารผู้เป็นโจทก์ครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว และในวันเดียวกันนั้นบริษัทฯ ก็ได้ไปยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอถอนอุทธรณ์คดีแพ่งและคดีล้มละลาย ซึ่งศาลได้สั่งเพิกถอนคดีล้มละลายดังกล่าวแล้ว สำหรับคดีแพ่งยังอยู่ระหว่างกระบวนการของศาลอุทธรณ์ ซึ่งคาดว่าจะเรียบร้อย ภายในเดือนนี้

34 0

บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 17/08/53

ไซด์เวย์ KGI คาดว่าตลาดหุ้นไทยวันอังคารจะเคลื่อนไหวกรอบแคบ ความอึมครึมของเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะยังกดดันจิตวิทยาของหุ้นเอเชีย หลังจากตัวเลขสำรวจภาคการผลิตแถบนิวยอร์กเดือน ส.ค. ต่ำกว่าคาดเล็กน้อย และเครื่องชี้ความเสี่ยง 2 ตัวจาก 3 ตัวหลักยังไม่ดีนัก กล่าวคือราคานํ้ามันซึมลง และผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ร่วงสู่จุดต่ำสุดใหม่ในรอบ 16 เดือน แต่ดัชนีความกลัว VIX ทรงตัวได้ ในส่วนของ SET คาดว่าจะเผชิญแรงขายจากนักลงทุนสถาบันในประเทศต่อไป เนื่องจากเป็นกลุ่มผู้เล่นที่มีกำไรมาก่อนหน้านี้ และทุนต่างชาติจะเป็นผู้รับหุ้นเพื่อจำกัดความเสี่ยงทางลงของดัชนีฯ ทั้งนี้นักลงทุนสถาบันเหลือยอดซื้อสะสมไม่มากนัก (9.5 พันล้านบาทนับจากกลางเดือน เม.ย.) KGI จึงเชื่อว่า SET จะไม่ลงแรงมองช่วงนี้เป็นการพักฐาน ด้านปัจจัยในประเทศ นายกฯ อภิสิทธิ์ เซ็นคำสั่งยกเลิก พ.ร.ก. ฉุกเฉินใน 3 จังหวัดคือเชียงใหม่ เชียงราย และอุบลราชธานี แต่ยังคง พ.ร.ก. ไว้ใน 7 จังหวัดรวมทั้งกรุงเทพฯ ด้วย อย่างไรก็ดีคาดว่าจะไม่มีผลสำคัญต่อตลาดหุ้นในวันนี้ กลยุทธ์: เล่นหุ้นขนาดกลางต่อไป แนะซื้อ i) กลุ่มเติบโตสูงเช่น AMATA, HANA*, DELTA*, SAT และ STANLY และ ii) กลุ่มเศรษฐกิจในประเทศเช่น PS*, AP และ HMPRO* และวันนี้เราเริ่มแนะนำหุ้น TASCO ด้วยคำแนะนำซื้อ (เป้าหมาย 60 บ. และกำไรไตรมาส 2 แข็งแกร่งกว่าคาด ดูเพิ่มในฉบับ)ความเห็นข่าวเด่นจากสถาบันวิจัยฯ นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชันเปิดเผยว่า บริษัทได้เซ็นสัญญากับบริษัทผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ชั้นนำ 4 รายโดยมาจากยุโรป 2 ราย และจีน 2 ราย เพื่อเข้ามาใช้พื้นที่กว่า 200 ไร่ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนครจ.ชลบุรีตั้งโรงงานประกอบรถจักรยานยนต์สำเร็จรูปขนาดใหญ่สำหรับจำหน่ายในประเทศ และส่งออก ขณะเดียวกันบริษัทยังอยู่ในระหว่างการเจรจากับผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ค่ายยุโรปอีก 1 รายคาดว่าจะสรุปผลได้ในเร็วๆ นี้ รวมทั้งเตรียมเจรจาดึงบริษัทซัพพลายเออร์ผู้ผลิตชิ้นส่วนจักรยานยนต์ให้เข้ามาลงทุนในนิคมเพิ่มเติม เพื่อป้อนชิ้นส่วนและอะไหล่ให้กับผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ที่จะเข้ามาลงทุนเพิ่มในอนาคต ทั้งนี้ บริษัทมั่นใจว่าสถานการณ์ที่ดีขึ้น และการกลับเข้ามาของนักลงทุน จะส่งผลให้อมตะฯ สามารถทำยอดขายที่ดินในปี 2553 ได้ตามเป้าหมาย 900 ไร่ คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 15.00 บาท เครือข่ายประชาชนภาคตะวันออกได้ยื่นหนังสือต่อสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) PTT* และ SCC* ในประเด็นการจัดทำรายงานผลกระทบทางสุขภาพ (HIA) ที่ทางกลุ่มเชื่อว่าไม่ถูกต้องตามประกาศกระทรวงทรัพยากรฯจำนวน 20 โครงการ เช่น โรงแยกก๊าซฯ ที่ 6 ของ PTT โครงการผลิตโอเลฟินส์และโครงการเปลี่ยนแปลงการผลิตโอเลฟินส์ของ SCCเพราะเร่งรีบทำให้การเสนอความเห็นและข้อกังวลของประชาชนไม่ครอบคลุมทุกประเด็น รวมทั้งระยะเวลาแจ้งให้ประชาชนล่วงหน้าเนื้อหาการศึกษาไม่ครบ อย่างไรก็ดีประธานส.อ.ท. เชื่อว่าการดำเนินการของผู้ประกอบการต่างๆ ได้ดำเนินการตามกฏหมาย สอดคล้องกับ PTT และ SCC ที่เชื่อว่าการดำเนินการที่ผ่านมานั้นชอบด้วยกฏหมาย อย่างไรก็ดีในส่วนของ PTT ระบุว่าจะมีการจัดให้มีการประชุมกับชุมชนอีกครั้งเกี่ยวกับขั้นตอนการก่อสร้างของบริษัท บมจ. โมเดอร์นฟอร์มกรุ๊ป ประเมินกำไรสุทธิปี 2553 ไม่ต่ำกว่า 400 ล้านบาท สอดคล้องกับประมาณการกำไรสุทธิปี 2553 ของเราที่ 400 ล้านบาท โดยมีปัจจัยสำคัญมาจากการเติบโตของเฟอร์นิเจอร์ที่อยู่อาศัยและสำนักงานที่คิดเป็นสัดส่วนรวมกว่า 74% ของรายได้รวม ปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนให้งานในมือปัจจุบันสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1 พันล้านบาท ทั้งนี้ กำไรดังกล่าว รวมกำไรพิเศษจากการขายตึกที่เอกมัยและหุ้นในบริษัท IMC มูลค่ารวมกว่า 56 ล้านบาท ที่ประชุม ครม. เมื่อวันจันทร์มีมติให้ปฎิรูประบบเงินเดือนข้าราชการ โดยให้ปรับเงินเดือนแรกบรรจุให้ใกล้เคียงเอกชนมากขึ้น และยังให้ทยอยปรับเงินเดือนทุกตำแหน่งให้เท่าเอกชนภายใน 5 ปี และต่ออายุราชการของข้าราชการสายวิชาการอีก 10 ปี นอกจากนี้ ครม. ยังระบุว่าน่าจะมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำก่อนเดือน เม.ย. 2554 โดยน่าจะมีการปรับขึ้นไปเป็น 250 บาทต่อวัน ซึ่งทั้งหมดในข่าวนี้จะส่งผลดีต่อการบริโภคส่วนบุคคลและหุ้นที่เกี่ยวข้องเช่นกลุ่มค้าปลีก เป็นต้น                

48 0
อ่านข่าวถัดไป
Sanook.commenu