เปิดคำสารภาพ "กิ๊กหนุ่ม" ฆ่าสาวเมียฝรั่ง รัดคอขันชะเนาะ

เปิดคำสารภาพ "กิ๊กหนุ่ม" ฆ่าสาวเมียฝรั่ง รัดคอขันชะเนาะ

เปิดคำสารภาพ "กิ๊กหนุ่ม" ฆ่าสาวเมียฝรั่ง รัดคอขันชะเนาะ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กิ๊กหนุ่มฆ่าโหดเมียฝรั่ง รัดคอขันชะเนาะ ขับรถมาโรงพัก-เข้ามอบตัวแต่โดยดี สารภาพทำไปเพราะรักและหึงหวง กลัวปันใจให้ชายอื่น

จากกรณีที่ นางสุณี อายุ 37 ปี ภรรยาของนักธุรกิจชาวอังกฤษ ถูกฆาตกรรมเชือกรัดคอขันชะเนาะ คาดว่าเป็นฝีมือของกิ๊กหนุ่มที่แอบมีความสัมพันธ์กัน พร้อมกับชิงทรัพย์สินของผู้เสียชีวิตไปหลายรายการ เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา ตามข่าวที่รายงานไปแล้วนั้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: กิ๊กหนุ่มหึงโหด ฆ่ารัดคอมัดขันชะเนาะ เมียฝรั่งตายสยอง

ล่าสุดในวันนี้ (15 ก.ค.) ที่หน้ากองบังคับการตำรวจภูธร จ.อุดรธานี พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน ผบก.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.อ.ชวิศ ศรีจันทร์ พ.ต.อ.วิรุต เย็นสวัสดิ์ รอง ผบก.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.ท.สิทธิพร ธารากุลทิพย์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองอุดรธานี ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายทองใส ปุราชาโต อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานีที่ จ.260/2559 ข้อหา "ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ลักทรัพย์ในเคหสถาน" พร้อมของกลาง รถยนต์เก๋งมาสด้า 2 สีขาว คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค Lenovo 1 เครื่อง

พ.ต.อ.พีระพงศ์ วงษ์สมาน ผบก.ภ.จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 00.15 น. วันที่ 15 กรกฎาคม ขณะที่ พ.ต.ท.สิทธิพร ธารากุลทิพย์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองอุดรธานี ปฎิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก นายทองใส ผู้ต้องหาได้ขับรถเก๋งมาสด้า 2 สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาจอดหน้าโรงพัก ก่อนจะเข้ามอบตัวว่าเป็นก่อเหตุฆ่า นางสุณี จึงได้ควบคุมตัวไปสอบสวน

จากการสอบสวน นายทองใส ให้การรับสารภาพว่า ตนทำงานเป็นช่างซ่อมรถจักรยานยนต์และช่างทาสี เมื่อ 5 ปีก่อน ได้รับเหมาทาสีบ้านของผู้เสียชีวิต ซึ่งมีสามีเป็นฝรั่ง ตนเห็นผู้เสียชีวิตมีอัธยาศัยดี จึงได้พูดจาเกี้ยวจีบ กระทั่งอีกฝ่ายมีใจด้วย ต่อมาได้ลักลอบมีเพศสัมพันธ์กันเรื่อยๆ ช่วงเวลาที่สามีฝรั่งไปต่างประเทศ

ต่อมาผู้เสียชีวิตได้ให้ตนเข้ามาอยู่ในบ้าน ในห้องพักรับรองแขกชั้นล่างได้ 3 ปี เมื่อสามีฝรั่งกลับมาบ้าน ผู้เสียชีวิตก็จะแนะนำว่าเป็นคนสวนและช่างซ่อมประจำบ้าน สามีฝรั่งก็ไม่ระแคะระคายและเอะใจอะไร ตนก็จะไม่แสดงตัวหรือหึงหวง ส่วนมากจะออกไปอยู่ข้างนอก เมื่อสามีฝรั่งกลับไปต่างประเทศ ตนถึงจะเข้ามาอยู่ในบ้านตามปกติ

ในระยะแรกความรักของตนและผู้เสียชีวิตก็หวานชื่นดี อีกฝ่ายให้เงินทองมาใช้ไม่ขาดมือ แถมยังได้ซื้อรถเก๋งมาสด้า 2 สีขาว ให้ตนขับอีกด้วย แต่ตนจะหึงหวงชายไทยทุกคนที่มาเกาะแกะผู้เสียชีวิต เพราะฝ่ายหญิงมักจะชวนเพื่อนหญิงชายมาตั้งวงเหล้าที่บ้านเป็นประจำ จนทำให้มีปากเสียงกันบ่อยครั้ง เพราะตนเกรงว่าอีกฝ่ายจะมีผู้ชายคนใหม่และตีตัวออกห่าง เคยพูดเตือนอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่เชื่อฟัง ยังดื้อรั้นพาเพื่อนมาดื่มเหล้าเหมือนเดิม

ก่อนเกิดเหตุ 2 วัน ผู้เสียชีวิตได้พาเพื่อนชายหญิงมาตั้งวงดื่มเหล้า และเห็นผู้ชายมาสักลายบริเวณแผ่นหลังผู้ตาย ติดต่อกัน 2 วัน ทำให้ตนรู้สึกไม่พอใจ และได้ตักเตือนว่า อย่านำเพื่อนมาดื่มเหล้าอีก ตนเกรงว่าผู้เสียชีวิตจะตีตัวออกห่าง แต่ผู้ตายไม่สนใจ บอกว่ายังสักลายไม่เสร็จ พรุ่งนี้จะเรียกช่างมาสักอีก ทำให้มีปากทะเลาะกัน

แม้กระทั่งตื่นเช้ามา ตนและผู้เสียชีวิตยังทะเลาะกันอีก ตนโมโหได้ใช้ท่อนไม้ทุบหัวผู้ตาย และใช้เชือกรัดคอขันชะเนาะ จนขาดใจตายในห้องน้ำ ก่อนจะรื้อค้นเอาทรัพย์สิน คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก โทรศัพท์มือถือ และขับรถเก๋งหลบหนีไป ส่วนทองรูปพรรณและกระเป๋าเงิน ตนไม่ได้เอาไปตามที่ถูกกล่าวหา

นายทองใส ยังเล่าอีกว่า ตนขับรถเอาโน้ตบุ๊กไปจำนำกับเพื่อนในเมืองอุดรธานี ราคา 2,000 บาท เพื่อเป็นทุนหลบหนี ส่วนโทรศัพท์มือถือของผู้เสียชีวิต ตนโยนทิ้งไป เมื่อหายตกใจตนไม่รู้ว่าจะหนีไปไหน ตนคิดอยู่ตลอดเวลาว่าจะหนีไปไหน จึงขับรถขึ้นไปภูฝอยลม เพื่อจะไปผูกคอตายตาม นางสุณี

แต่ตนก็คิดขึ้นได้ว่ามีหลวงพ่อที่รู้จักที่วัดบริเวณกิโลเมตรที่ 17 ต.โคกสะอาด อ.เมือง จ.อุดรธานี ได้ไปที่วัดและคุยกับหลวงพ่อ ท่านได้แนะนำให้ให้ตนมอบตัวและยอมรับความจริง จนกระทั่งตัดสินใจขับรถมาโรงพัก เข้ามอบตัวกับตำรวจในที่สุด

นายทองใส บอกทิ้งท้ายว่า สาเหตุที่ทำไปเพราะตนรักและหวง รู้สึกเสียใจที่ได้พลั้งมือฆ่า ด้วยความโมโหและหึงหวง จึงตัดสินใจเข้ามอบตัวกับตำรวจเพื่อรับกรรมที่ตนก่อไว้ แล้วตนก็้เพิ่งรู้ว่า หนุ่มช่างสักลาย ที่แท้เป็นหลานชายของผู้เสียชีวิต ตำรวจจึงควบคุมตัวนำส่ง สภ.เพ็ญ เพื่อดำเนินคดี ตามกฎหมายต่อไป

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ขณะที่ตำรวจควบคุมตัว นายทองใส ผู้ต้องหามาแถลงข่าว ได้มีญาติของนางสุณี พยายามจะปรี่เข้ามาทำร้ายผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องได้กันตัวออกไป แต่หลังจากแถลงข่าวเสร็จ ญาติก็ได้ปรี่จะเข้าทำร้ายอีก แต่ตำรวจได้เข้าห้ามและควบคุมตัวไว้ จึงได้แค่ร้องด่าทอ ที่ฆ่าญาติตน ก่อนจะนำตัวไปสงบสติอารมณ์

ส่วนการทำแผนนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวไปชี้จุดเท่านั้น เนื่องจากเกรงว่าญาติผู้ตายและชาวบ้านอาจรุมประชาทัณฑ์ผู้ต้องหาได้ เนื่องจากความโกรธแค้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook