|
|
| |
ไหงผมกลายเป็นพวกคุณทักษิณไปได้ |
 |
| โดย เดลินิวส์ วัน พุธ ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2549 02:55 น. |
|
ชัด ๆ ตอนนี้ ก็เหลือเพียง 3 คนที่มีข่าวระบุว่า น่าจะมีโอกาสทำหน้าที่ประธานสภานิติ บัญญัติแห่งชาติ คือ 1. นายชัยอนันต์ สมุทวณิช 2. น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ และ 3. นายมีชัย ฤชุพันธุ์
ในบรรดา 3 ตัวเต็งที่ว่า ดูเหมือนอดีตประธานวุฒิสภา อย่าง ท่าน อ.มีชัย ฤชุพันธุ์ ได้รับ เสียงวิจารณ์มากที่สุด มีทั้งฝ่ายสนับสนุน และทั้งฝ่ายคัดค้านสนับสนุนเพราะเชี่ยวชาญกฎหมาย มีประสบการณ์ และอาวุโส ส่วนที่คัดค้านเพราะช่วงหนึ่งท่านเข้าไปเกี่ยวข้องกับ “ระบอบทักษิณ”
ข้อกล่าวหา “ระบอบทักษิณ” ได้รับการชี้แจง จาก นายมีชัย ลงวันที่ 15 ต.ค. ในเว็บไซต์ MeechaiThailand.com ช่วงถามตอบกับมีชัย คำถามที่ 018997 มีผู้ถามใช้นามว่า “ลูกศิษย์” ที่ถามว่า “ผมสงสัยมากครับว่าทำไมมีคนต่อต้านไม่ให้อาจารย์เข้าไปเกี่ยวข้องกับสภานิติบัญญัติ โดย เฉพาะตำแหน่งประธาน มีคนเขียนคัดค้านและต่อว่า เยอะมากครับส่วนใหญ่มีความคิดเห็นว่า อาจารย์เคยรับเงินอดีตนายกฯ ทักษิณและจะช่วยอดีตนายกฯ ให้พ้นผิดตลอดจนมีคนคิดว่าอาจารย์ไม่โปร่งใสในการเข้า มาเพื่อแก้ไขและป้องกันปัญหาของชาติบ้านเมืองอย่างแท้จริงผมคิดว่าอาจารย์ คงไม่ทำเรื่องที่ไม่ดีต่อชาติบ้านเมืองนะครับ”
นายมีชัย ตอบคำถามว่า “ข้อกล่าวหาเรื่องรับเงินก็เหมือนกันที่มา ก็คือหาว่าผมไปรับจ้างคุณทักษิณ ทำกฎหมายเศรษฐกิจ ซึ่งไม่จริง ผมเคยทำงาน วิจัยให้แก่การนิคมอุตสาหกรรม เพื่อพัฒนานิคมอุตสาหกรรมให้เป็นเขตเศรษฐกิจ เหมือนอย่างที่อาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รับจ้างรัฐบาลทำกฎหมายเมืองสุวรรณภูมิ ต่างกันตรง ที่รับจ้างรัฐบาลโดยตรงส่วนผมรับจ้างนิคมอุตสาหกรรมจำนวนเงินก็เหมือนกัน
ผมเคยเป็นประธานคณะกรรมการปรับ ปรุงกฎหมายในสมัยคุณทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรี สมัยแรก ได้เบี้ยประชุมครั้งละ 525 บาท ซึ่งสมัยนั้นใคร ๆ ก็เชียร์กันทั้งนั้น แม้แต่คุณชัยอนันต์ ซึ่ง คุณทักษิณแต่งตั้งดำรงตำแหน่งอะไรต่อมิอะไรใน รัฐวิสาหกิจมากมายหลายแห่ง การเป็นประธานของ ผมอยู่มาได้ระยะเดียว คุณทักษิณเขาก็ยกเลิกตั้ง ใหม่โดยมีตัวเขาเองเป็นประธาน ความผูกพันก็มี อยู่เท่านั้น แต่มาบัดนี้ไหงกลายเป็นว่าผมเป็นพวก คุณทักษิณไปได้ก็ไม่รู้เหมือนกันถ้าใครที่เข้ามาอ่านคำตอบและบทความต่าง ๆ ในเว็บนี้ ก็จะเห็นว่า บทความเรื่อง “ความรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรี” ซึ่งก็ยังแสดงอยู่ในเว็บไซต์นี้ เป็นบทความที่ผมแทบ เอาตัวไม่รอดฟังเขาต่อต้านแล้วก็อนาถใจไม่น้อย ข้อสำคัญก็คือ ต่างคนต่างอ้างว่าประชาชนต้องมีสิทธิและเสรีภาพ แต่ถ้าหากว่าคนกลุ่มหนึ่งพูดอะไรหรืออยาก ให้เป็นอย่างไรแล้วคนทุกคนจะเห็นแตกต่างไปไม่ได้ สิทธิและเสรีภาพของบุคคลจะมีอยู่ได้อย่างไรผมก็นึกไม่ออกเหมือนกัน”
ได้ยิน อ.มีชัย ชี้แจงแล้ว ส่วนชี้แจงแล้วจะลดหรือเพิ่มเสียงวิจารณ์ คงต้องดูต่อไปว่า ที่เต็งกันจะได้หรือไม่ได้ หรือสุดท้ายก็ไม่แน่ อาจจะมี “ตาอยู่”.
|
|
| |
อ่านข่าวทั้งหมดของ เดลินิวส์ ได้ที่นี่
 |
| |
 |
|
การเมือง
