ค้นหาข่าว  
  หน้าแรกข่าว > สังคม(test)
  สวัสดิ์ โชติพานิช กันชน คปค.
โดย มติชน วัน ศุกร์ ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2549 15:44 น.
คอลัมน์ โครงร่างตำนานคน

โดย การ์ตอง
เหตุผลหนึ่งการเข้ายึดอำนาจของคณะกรรมการปฏิรูปการปครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) คือการแก้ปัญหาการทุจริต
ปราบปรามการทุจริตดูเหมือนจะเป็นเหตุผลทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงอำนาจทางการเมือง ไม่ว่าจะในความเป็นปกติ หรือด้วยการปฏิวัติ เนื่องจากการทุจริตเป็นความไม่ชอบธรรมที่ชัดเจน และเป็นที่รังเกียจของประชาชน
การจัดการกับคนทุจริตจึงเป็นการสร้างความชอบธรรมให้กับผู้บริหารชุดใหม่ได้เร็วที่สุด
คปค.เลือกสร้างผลงานในเรื่องนี้ด้วยการออกประกาศ คปค.ฉบับที่ 23 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินการดำเนินงานและโครงการต่างๆ ทื่ได้รับอนุมัติและเห็นชอบโดยบุคคลในคณะรัฐมนตรี หรือคณะรัฐมนตรีในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ชื่อยาวเหยียดนี้เรียกสั้นๆ ว่า คตส. ให้นายสวัสดิ์ โชติพานิช เป็นประธาน โดยมีกรรมการ 8 คน คือ คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา, ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล, นายธีระชัย ภูวนารถนรานุบาล, นายศราวุธ เมนะเศวต, พ.ต.อ.ยุทธบูลย์ ดิสมาน, พล.อ.อัฏฐพร เจริญพานิช และนายพชร ยุติธรรมดำรง
ประชุมวันแรกวงแทบแตก เมื่อประธานสวัสดิ์ ตีกรอบการทำงานไว้ว่า จะเข้าไปสอบสวนเฉพาะโครงการที่รัฐมนตรีในรัฐบาลชุดที่ คปค.ยึดอำนาจอนุมัติเท่านั้น หากไม่ใช่โครงการในลักษณะนี้ถือว่าไม่อยู่ในอำนาจของ คตส.
เล่นเอากรรมการหลายคนโดยเฉพาะคุณหญิงจารุวรรณถึงกับเบรกแตก เพราะเท่ากับข้อกล่าวหาเรื่องการทุจริตเชิงนโยบาย รวมถึงการขายหุ้นชินคอร์ปจะไม่เกี่ยวข้องกับการทำงานของ คตส.
แรงขนาดว่าคุณหญิงจารุวรรณประกาศกลางที่ประชุมว่า อย่างนี้ก็ทำงานร่วมกันไม่ได้
ภาพในความรู้สึกของฝ่ายที่สะใจในการไล่ขยี้ ทักษิณ ชินวัตร ย่อมรู้สึกว่า สวัสดิ์ โชติพานิช แปลกแปร่ง จนถึงกับมีการตั้งข้อสงสัยว่าถูกแทรกแซงหรือไม่
หากมองเผินๆ จะเป็นอย่างนั้น แต่หากมองแบบคนที่ผ่านมาหลายฤดูกาลแห่งอำนาจอย่าง สวัสดิ์ โชติพานิช ยอมเล็งเห็นว่า อำนาจของ คปค.นั้นเป็นแม้จะเด็ดขาดเบ็ดเสร็จแค่ไหน แต่ที่สุดแล้วก็ยังคืออำนาจชั่วคราว
ไม่เกินปีจะต้องทิ้ง ตรงนี้เป็นประเด็นสำคัญ
สำคัญตรงที่การเมืองภาพลักษณ์เป็นเรื่องสำคัญ ใครถูกตีตราว่าทุจริตย่อมเป็นความเดือดร้อนสาหัสของนักการเมือง
ไม่มีอะไรที่จะหนักหนาสาหัสและสร้างความรู้สึกเป็นศัตรู สร้างความเจ็บแค้นได้เท่ากับการเข้าไปยึดทรัพย์สิน โดยข้อหาว่าทุจริต
การบุ่มบ่ามเข้าไปจัดการอย่างไม่ดูเรื่องดูราวให้ชัดเจน เท่ากับยืนกลางแจ้งประกาศท้าหาศัตรู
ถ้าแน่จริง และเชื่อมั่นว่าทำถูกต้องคงไม่เป็นไร เพราะพลังประชาชนจะเป็นกำแพงให้พิง แต่หากทำไปด้วยไม่แน่ใจว่าเกิดจากอคติ หรือด้วยความสะใจหรือไม่ ตรงนี้เป็นเรื่องต้องคิด
หลัง คปค.หมดอำนาจไป มีการเลือกตั้งใหม่แน่ใจแค่ไหนว่า นักการเมืองที่ คตส.ไปยึดทรัพย์จะไม่ได้กลับเข้ามามีอำนาจใหม่
ผู้สูงอายุอย่าง สวัสดิ์ โชติพานิช คงไม่เป็นไร เพราะอย่างไรเสียในปั้นปลายชีวิตคงไม่ต้องดิ้นรนหาความเจริญก้าวหน้าให้ตัวเองมากนัก
แต่ทีมงานและมือไม้ซึ่งคงต้องเป็นคนหนุ่ม จะเป็นอย่างไร
คนที่จะเรียกทีมงานมาใช้งานต้องคิดถึงอนาคตของผู้ใต้บังคับบัญชา
คำของ สวัสดิ์ โชติพานิช ที่ว่า ผมรู้ดีว่า สังคมคาดหวังคณะกรรมการชุดนี้สูงมาก แต่ผมต้องพิสูจน์ด้วยหลักฐานที่ชัดเจนไม่เช่นนั้นเมื่อเรื่องไปถึงศาลยุติธรรม คดีอาจจะหลุดในชั้นศาลเหมือนสมัย รสช.ก็ได้
และเมื่อถูกถามว่า จะแต่งตั้งคณะอนุกรรมาธิการชุดพิเศษเพื่อมาช่วยงานโดยตรงหรือไม่ คำตอบของนายสวัสดิ์ที่ว่าจะให้ตนเอางบประมาณมาจากไหน ขนาดเบี้ยเลี้ยงให้ผู้ที่มาช่วยเหลืองานมีงบแค่ 500 บาทต่อครั้งเท่านั้น ตนสงสารเขา ค่าน้ำมัน ค่ารถที่จะเดินทางมาประชุมยังไม่ได้เลย ไม่อยากให้มาลำบากด้วย เพราะต้องละทิ้งหน้าที่ประจำ มารับช่วยงานตรวจสอบ ไม่รู้จะเป็นการสร้างศัตรูโดยที่เขาไม่รู้ตัวหรือไม่ แบบนี้คนมีฝีมือที่ไหนจะมา เขาต้องทิ้งงานประจำไว้ ตนก็กลุ้มใจหนักใจเช่นกัน
ไม่เพียงแค่การสะท้อนความรู้สึก แต่ยังแฝงด้วยประสบการณ์ของคนที่ผ่านโลก ผ่านชีวิตมามาก
ท่ามกลางความฮึกเหิมในอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดที่เพิ่งได้รับมา
คนแบบ สวัสดิ์ โชติพานิช ต่างหากที่ คปค.ควรจะรับฟัง
คนดีๆ แบบ คุณหญิงจารุวรรณ มีไว้ทำงานเพื่อรุกไปข้างหน้า แต่คนอย่าง สวัสดิ์ โชติพานิช คือสติที่ คปค.ต้องให้มีอยู่กับตัวตลอดเวลา

หน้า 4
 
อ่านข่าวทั้งหมดของ มติชน ได้ที่นี่
 
 
วันพุธที่ 18 ตุลาคม 2549
วันพุธที่ 18 ตุลาคม 2549
กินเจล้างใจ
สมองเสื่อม
คอลัมน์ จีน่า หยิกแกมหยอก
คอลัมน์ ปรากฏการณ์ข่าว
หนุ่มอังกฤษเก่ง คิดทำเครื่องต้มไข่สำเร็จ
สวยด้วยเนื้อมูส เทรนด์สวยของสาวยุคใหม่
คอลัมน์ เรียงคนมาเป็นข่าว
คอลัมน์ สังคมประจำวัน