|
|
| |
หวยบนดิน ความเลวที่คนไม่รู้ |
 |
| โดย เดลินิวส์ วัน ศุกร์ ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2549 15:41 น. |
|
มีเรื่องแปลกแต่จริงที่เกิดขึ้นในเมืองไทยของเราหลายเรื่อง แต่เรื่องหนึ่งที่ผมจำเป็นจะต้องเล่าขยายความให้ประจักษ์ไว้ ณ ที่นี้ก็คือ เรื่อง “หวยบนดิน” จำได้ว่าตอนแรกเริ่มของการกำหนดให้มีขึ้นนั้น รัฐบาลนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ให้เหตุผลของการมี “หวยบนดิน” ที่ป่าวประกาศบอกประชาชนมาโดยตลอดก็คือ “มีเพื่อต้องการล้มเจ้ามือหวยใต้ดิน” อีกทั้งยังป่าวประกาศย้ำว่าใครที่ไม่เห็นด้วยนั้นคือ กลุ่มคนที่เสียประโยชน์จากการเป็นเจ้ามือหวยใต้ดิน ผลก็คือเสียงปรบมือตอบรับดังกระหึ่มกลบเสียงคัดค้านลงได้
ต่อมา เพื่อต้องการให้คนทุ่มกันเข้ามาซื้อให้มาก ๆ มีกำไรมาก ๆ จึงได้ใช้วิธีการตลาดเข้ามาจัดการด้วยการให้มี “แจ๊กพอต” 20 ล้านบ้าง 30 ล้านบ้าง บางงวดเคยสูงถึง 90 ล้านก็มี เข้าลักษณะสะสมเงินรางวัลมาก ๆ เพื่อล่อใจ จนคนแห่เข้ามาเล่นกันมืดฟ้ามัวดิน เข้าข่ายงมงายกันไปทั่วทุกหัวระแหง ซ้ำยังได้โฆษณาฟรีลงหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ถึงคนที่ได้แจ๊กพอต ทำให้คนบ้าคลั่งมากขึ้น
ต่อมา เมื่อทั้งเด็กและผู้ใหญ่บ้าหวยรวยทางลัดมากขึ้น จนกระแสรู้ทันจากสังคมเริ่มตีกลับ เพราะผลร้ายของมันชัดเจนขึ้น กลยุทธ์การสร้างความชอบธรรมให้แก่ “หวยบนดิน” จึงเกิดขึ้น โดยอาศัยการโฆษณาชวนเชื่อผ่านทีวีทุกวันว่า เงินหวยนั้นนำมาเป็นทุนการศึกษาสร้างอนาคตให้แก่เด็ก ๆ ได้อย่างมากมาย ซึ่งก็เพียงพอต่อการลดกระแสต้านลงได้
ข้างต้นนี้คือข้อมูลที่คนไทยบางส่วนพอจะได้รับรู้กันอยู่บ้าง แต่มีความจริงที่สำคัญมากที่คนส่วนใหญ่ในประเทศไม่รู้ เพราะถูกปิดหูปิดตามาโดยตลอดคือ
หนึ่ง...ตั้งแต่เดือน เม.ย. 2547 เป็นต้นมาถึงปัจจุบัน หวยบนดินทำกำไรทั้งสิ้นจำนวนเท่าไร อาจจะรู้เพียงแต่ว่าในแต่ละงวดนั้นมีคนซื้อหวยรวมทั้งสิ้นราว 2,500 ล้านบาท เดือนละสองงวดจะได้เงินราว 5,000 ล้านบาท ดังนั้นตัวเลขรวมในสองปีเศษที่ผ่านมา ย่อมมากมายมหาศาล คะเนว่าไม่ต่ำกว่าแสนล้านบาทอย่างแน่นอน
สอง...เงินกำไรทั้งหมดจำนวนมีเท่าไหร่ยังไม่รู้นั้น ที่น่ากลัวมากคือเงินจำนวนมหาศาลนี้ไปอยู่ที่ไหน ใครดูแล เพราะทุกบาททุกสตางค์นั้นไม่ต้องเสียภาษีให้รัฐ และไม่ได้นำเข้าเป็นเงินของรัฐเลย รู้กันบ้างหรือเปล่า
สาม...ไม่เคยมีการเปิดเผยต่อสังคมเลยว่า ใครอนุมัติเงินหวยให้ใครบ้าง ให้ไปทำอะไร ให้ไปเป็นหน่วยงานหรือคนละเท่าไหร่ รู้เพียงแต่ว่าจำนวนหนึ่งนั้นไม่กี่ล้านนำไปสร้างภาพลักษณ์ที่ดีด้วยการให้เป็นทุนการศึกษาแก่เด็ก ทั้ง ๆ ที่รัฐนั้นสามารถตั้งงบประมาณโดยตรงจากรัฐเพื่อเป็นทุนการศึกษาสำหรับเด็กได้อยู่แล้ว
สามข้อนี้สมาชิกวุฒิสภาจำนวนหนึ่งได้ซักถามต่อรัฐบาลและต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาแล้ว ผลก็คือ ไม่มีคำตอบที่ชัดเจนครับ ทุกอย่างยังมืดดำสนิทเช่นเดิมจนถึงทุกวันนี้ ผมเองก็ได้ถาม ดัง ๆ หลายหน จนล่าสุดต้องถามและป่าวร้องดัง ๆ ไปยังสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน และคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน ให้ช่วยดูแลเงินมหาศาลก้อนนี้ของแผ่นดินด้วย
ผมเชื่อครับว่า อีกไม่นานเรื่องนี้ก็จะกระจ่างขึ้น และเมื่อข้อมูลความจริงทุกอย่างเปิดเผยขึ้น คนไทยจำนวนมากจะได้หูตาสว่างขึ้นและเข้าใจเสียทีว่าใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร ในทางที่ผิด หาประโยชน์แก่ตัว แก่ครอบครัวและพวกพ้องมากเพียงใด
บาปกรรมนั้นมีจริงนะครับและมันวิ่งตามทันเร็วเสียด้วยนะครับ...จะบอกให้.
วัลลภ ตังคณานุรักษ์
|
|
| |
อ่านข่าวทั้งหมดของ เดลินิวส์ ได้ที่นี่
 |
| |
 |
|